จนท.พม. พร้อมตำรวจ เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย เรียกร้องความสนใจให้ภรรยาที่หนีไปกลับมาหา
3 เม.ย. 2563, 20:10
บ่ายวันนี้ ( 3 เมษายน 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สระบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ ด.ญ. แหม่ม (นามสมมติ) อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนบ้านหนองผักหนอก ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตามคำร้องทุกข์จาก น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี มารดาที่ร้องขอความช่วยเหลือไปยัง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ โดยมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพ ด.ญ.แหม่ม ถูกมัดมือด้วยสายไฟไพล่หลังอยู่ในที่พักเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ ภายในแคมป์ที่พักคนงานเฝ้าไร่ ไม่มีชื่อแห่งหนึ่งริมทางเข้าวัดหนองผักกรูด หมู่ 7 หมู่บ้านหนองผักหนอก ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
พบ นายนรินทร์ ไกรสร อายุ 29 ปี บ้านเดิมอยู่ที่เลขที่ 43 หมู่ 1 ต.ป่าซัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ อยู่กับ ด.ญ.แหม่ม ลูกสาว เพียงลำพังสองคน (พ่อ/ลูก) โดยเจ้าหน้าที่นำหลักฐานการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก น.ส.เอ (ภรรยา) ให้นายนรินทร์ ทราบ และนำตัวนายนรินทร์ พร้อมด้วย ด.ญ.แหม่ม มาที่ สภ.มวกเหล็ก เพื่อสอบสวนเบื้องต้นและลงบันทึกประจำวันขอรับ ด.ญ.แหม่ม ไว้ในอุปการะที่บ้านพักเด็ก จ.สระบุรี
เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระบุรี เปิดเผยว่า พัฒนาสังคมฯ ได้รับการประสานจากมูลนิธิปวีณาฯ ให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.แหม่ม ตามที่ น.ส.เอ มารดา ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไป ในชั้นนี้เจ้าหน้าที่ได้ นำตัว นายนรินทร์ และ ด.ญ.แหม่ม มาขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยขอรับตัว ด.ญ.แหม่ม ไปดูแลตรวจร่างกายฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็ก จ.สระบุรี ก่อนเพื่อจะสอบสวนข้อเท็จจริงตามกระบวนการของกฎหมาย (สหวิชาชีพ) จากนั้นจะเรียก บิดา-มารดา (นายนรินทร์ ) น.ส.เอ มาพูดคุยสอบถามเพื่อดำเนินการในขั้นถัดไป โดย ด้านคดีเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน แต่ตัว ของ ด.ญ.แหม่ม นั้น ขณะนี้ต้องการจะไปอยู่กับ น.ส.เอ เพราะอยากหนีไปจาก นายไกรสร ที่มักทำร้ายร่างกายเป็นประจำจนแทบทนไม่ไหว
ด้าน ร.ต.อ.วสันต์ ลำดวน รอง สว.สอบสวน สภ.มวกเหล็ก เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนเพียงรับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และต้องรอเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านพักเด็ก จ.สระบุรี นำ ด.ญ.แหม่ม ไปตรวจร่างกาย และจะได้นำตัวมาสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ส่วน น.ส.เอ มารดา ด.ญ.แหม่ม ร่ำไห้เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า จากหลักฐานต่างๆ ที่ลงในเฟซนั้น ตนได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆ นำลงร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิปวีณา เมื่อเห็นภาพแล้วจึงได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องราวข้อเท็จจริงจากตน ซี่งภาพที่เห็นเป็นภาพเมื่อ เดือน ก.พ.63 ที่ผ่านมา ซึ่ง นายนรินทร์ สามีได้ทำร้ายร่างกาย ด.ญ.แหม่ม ลูกสาว ทุกครั้งที่ผ่านๆ มามักกระทำเช่นนี้เป็นการข่มขู่ให้ตนกลับมาอยู่กินกันเหมือนเดิม
น.ส.เอ เล่าต่อว่า ความโหดร้ายและไม่รับผิดชอบต่อครอบครัวแล้วที่ตนทนไม่ได้คือ นายนรินทร์ มีความคิดจะทำมิดีมิร้ายกับ ลูกสาวคนโต ที่เกิดจากสามีเก่า แม้ขณะที่อยู่กินด้วยกันยังกล้าพูดขอกับตนตรงๆ ว่าอยากมีอะไรกับ (ลูกเลี้ยง) เมื่อเมาสุราตนจะต้องถูกทำร้ายเป็นประจำจนทนไม่ไหว เมื่อตนหนีไปก็จะกระทำกับลูก ( ด.ญ.แหม่ม) เป็นการประชด หรือบางครั้งทุบตีให้ตนได้ยินเสียงลูกร้องไห้เป็นการบังคับให้ตนกลับ จนตนสุดจะทนจึงได้นำ ด.ญ.แหม่ม กลับไปให้ญาติๆ ของ นายนรินทร์ เลี้ยงดูที่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนตนก็ นำลูกคนโตหลบหนีการตามล่า ของนายนรินทร์ และล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 2 เม.ย.63) นายนรินทร์ ได้ใช้เท้าเหยียบหน้าอกลูก ด.ญ.แหม่ม อีก ตนจึงตัดสินใจร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาดังกล่าว