จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่ได้ทีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้างทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจันทบุรี ได้มีคำสั่งให้ปิดสถานที่บางแห่งในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี เป็นการชั่วคราวเพื่อเป็นป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปแล้วนั้นแต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังมีแนวโน้มเพื่มสูงขึ้น และจำนวนประชาชนผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังรวมถึงประชาชนที่ติดเชื้อยังไม่ลดลง ดังนั้นทางจังหวัดจันทบุรี ได้มีประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พศ. 2558 (ฉบับที่ 3) ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชายทะเลหรือชายหาด และสวนสาธารณะทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับหากผู้ใดฝ่าฝืน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ถึง 30 เมษายน 2563 ซึ่งส่งผลต่อชาวประมงพื้นบ้านอย่าง นายเอก อายุ 39 ปี ที่เป็นชาวประมงพื้นบ้านเป็นอย่างมาก เพราะออกทำการประมงมาได้ แต่ไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อไปขายซึ่งจากเดิมก่อนมีการสั่งปิด จะมีรายได้ประมาณวันละ 1,000-2,000 บาทต่อวัน

 

 

 

 

แต่พอหลังมีการประกาศต่างๆ ออกมาทำให้ประชาชนเองไม่มีการเดินทางออกมาซื้อของ จึงทำให้รายได้ลดลงเหลือเพียงวันละ 500-700 บาท แต่เมื่อหักค่าน้ำมัน 400 บาทต่อวัน ทำให้รายได้ลดลงส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างมาก อีกทั้งปูที่จับมาได้พ่อค้าแม่มารับซื้อน้อยลง ทำให้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวเป็นอย่างมาก

ด้านแม่ค้าขายอาหารทะเลสดอย่าง นางสาวนัยนา รอดเจริญ อายุ 43 ปี ที่เป็นแม่ค้าขายอาหารทะเลสดบริเวณวงเวียนปลาพะยูน บ้านเจ้าหลาว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากการการประกาศปิดชั่วคราวของจังหวัดจันทบุรีเช่นกัน เพราะอาหารทะเลสดประเภทหมึก ปู กุ้ง ไม่มีลูกค้ามาซื้อเลย ทำให้ต้องลดปริมาณการรับซื้อจากชาวประมงลงเกินกว่าครึ่ง และอนาคตอาจจะต้องปิดร้านชั่วคราวจนกว่าจะมีนักท่องเที่ยวหรือประชาชนมาเลือกซื้อสินค้าดังเดิม

นายไตรรงค์ มีทับทิม/จันทบุรี 0870894201