เมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 4 เมษายน  2563 บรรยากาศเทศกาลเช็งเม้งที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เงียบเหงา ชาวไทยเชื้อสายจีนยกเลิกเดินทางมากราบไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน  เต็นท์ผ้าใบที่จองไว้กับทางสุสานก็ลดลงกว่า 80% ผลพวงมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ใช้วิธีการไหว้อยู่ที่บ้านและงดการเดินทางมายังสุสาน

ซึ่งอำเภอเบตง จังหวัดยะลา  เป็นอำเภอใหญ่ ที่มีประชากรชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เทศกาลเช็งเม้งในปีนี้ส่งผลให้ที่สุสานบ้านจาเราะปาไต บ้าน กม.4  อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นสุสานขนาดใหญ่เป็นที่รวบรวมของบรรพบุรุษของชาวไทยเชื้อสายจีนในอำเภอเบตงที่ได้มาบรรจุอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้

ซึ่งในปีนี้ประชาชนจำนวนมากงดเดินทางมากราบไหว้บรรพบุรุษ ที่สุสาน เนื่องจากสถานการณ์การเกิดโรคไวรัสโควิด - 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ส่งผลทำให้ภายในบริเวณสุสานเงียบเหงาต่างกับทุกปีที่ผ่านมาโดยปกติในวันเสาร์ อาทิตย์ในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง จะมีประชาชนเดินทางกลับมานับพันคนจากกรุงเทพฯและจากจังหวัดอื่นที่ลูกหลานไปทำงาน  แต่ในปีนี้พบว่ามีประชาชนเดินทางมากราบไหว้บรรพบุรุษไม่ถึง 100 คน ในแต่ละวัน ส่วนหนึ่งเชื่อเลยว่าประชาชนส่วนใหญ่ ใช้วิธีการไหว้อยู่ที่บ้านและงดการเดินทางมายังสุสาน

นางรัฐวัช แซ่ฉิ่ง คนไทยเชื้อสายจีนในเบตง กล่าวว่า  วันเชงเม้ง มีกำหนดในเดือน 5 ของจีน ซึ่งจะอยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายน ของทุกปี ซึ่งก่อนวันพิธีจะมีการทำความสะอาดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ  และในวันพิธีจะมีการเซ่นไหว้อาหารคาว หวาน พร้อมทั้ง เผากระดาษเงินกระดาษทอง ที่บริเวณหน้าหลุมฝังศพ  เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษ และเป็นการส่งอาหารให้ทุกปี  เพื่อมิให้อดอยาก เมื่อไปอยู่อีกภพหนึ่ง   ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่ จะหยุดงานมาร่วมพิธีกันทั้ง ครอบครัว และ ญาติพี่น้อง หรือ ถือว่าเป็นวันพบญาติของคนจีนก็ว่าได้   เทศกาล “เชงเม้ง” จึงเป็นเทศกาลประจำปีในการบูชาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของชาวจีน  และปฏิบัติกันแพร่หลายสืบมาจนถึงปัจจุบัน แต่ในปีนี้ไม่ได้เดินทางไปไหว้ที่สุสาน เนื่องจากสถาการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกอย่างผู้สูงอายุที่บ้านก็เดินทางลำบากเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะอายุมากแล้ว จึงได้ไหว้ที่บ้านแทนไปไหว้สุสานที่ บ้าน กม.4 แทนในปีนี้ แต่เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายก็จะกลับมากราบไหว้บรรพบุรุษเช่นเดิม