หลังมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และได้ออกข้อกำหนด ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2563 โดยห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น.ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นนั้น ได้ส่งผลต่อการค้าขายในตลาดเช้าอย่างตลาดสวนมะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี อย่างมาก เพราะพ่อค้าแม่ค้าออกจากบ้านมาถึงตลาดประมาณ 04.30 น. ตั้งร้านเสร็จลูกค้าก็ยืนรอส่งผลทำให้ตลาดมีความแออัด แต่ขายได้ถึงประมาณ 05.00 น.ลูกค้าก็เหลือน้อย จนต้องเก็บร้านในช่วง 09.00 น. เพราะไม่มีลูกค้ามาเดินซื้อของแล้ว ทั้งที่หน่วยงานได้อนุญาตขยายเวลาตั้งขายได้ตั้งเวลา 04.01 น.ไปจนถึงเวลา 12.00 น.แล้วก็ตาม ทำให้ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่เป็นอย่างมาก จึงได้เปลี่ยนสถานที่ขายโดยเฉพาะอาหารทะเล ผักสดที่นำมาขายจะเกิดการเน่าเสียได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนไปขายในตลาดนัดหรือตลาดอื่นๆเพิ่มขึ้น

 

 

 

 

ด้านนางแมว อายุ 68 ปี แม่ค้าขายผักสดตลาดสวนมะม่วง กล่าวว่า ช่วงนี้ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฯ ออกจากบ้านมาขายของช่วง 04.00 น. มาถึงตลาดประมาณ 04.30 น. จะมีลูกค้ามายืนรอแล้ว และขายได้เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง ลูกค้าก็เริ่มหายแล้ว ส่งผลกระทบต่อการค้าขายอย่างมาก เพราะประชาชนออกมาน้อยลงหรือซื้อของเตรียมไว้แล้ว รวมทั้งยังทำให้รายได้หดหายไปด้วย

ด้านนางศรี อายุ 55 ปี แม่ค้าขายข้าวแกงในตลาดสด กล่าวว่า ตนเองขายข้าวแกงในตลาดมานาน ได้รับผลกระอย่างมากเพราะมีการประกาศห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน ทำได้เพียงใส่ถุงกลับไปทานเท่านั้น ทำให้ยอดขายของตนเองลดลงอย่างมาก กับข้าวที่นำมาขายก็เหลือทุกวันอีกด้วย