เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 1 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบฯ คณะตรวจประเมินจากภูธรภาค 7 ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ภูธรภาค 7 กรณีเกิดเหตุวัยรุ่นตีกันที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ซึ่งได้มาดำเนินการสุ่มตรวจความพร้อมของ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดแรกจากทั้งหมด 8 จังหวัด ซึ่งผลการตรวจประเมินมีผลการตรวจที่ดีเยี่ยม เนื่องจากใช้เวลาไปเพียง 3 นาที 58 วินาที ซึ่งอยู่ในภายในระยะเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ว่า ในเขตเทศบาลเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้าระงับเหตุภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที นอกเขตเทศบาลไม่เกิน 15 นาที

 

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้เกิดเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันจนได้รับบาดเจ็บถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลและทั้งสองฝ่ายก็ตามไปดูผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล แล้วก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความหวาดผวาให้กับเจ้าหน้าที่ แพทย์-พยาบาล และประชาชนที่มารอรับบริการจากทางโรงพยาบาล ดังนั้นตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้สนองนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการกวดขันเตรียมความพร้อมเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ทุก สภ.ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 โดยการสุ่มตรวจประเมินความรวดเร็วในการเข้าระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต่างๆที่มีโรงพยาบาล หลังจากที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันหน้าห้องฉุกเฉินจากทางโรงพยาบาล

โดยทางคณะตรวจประเมินจะใช้วิธีการลงพื้นที่สุ่มตรวจโดยไม่ได้แจ้งให้ สภ.พื้นที่นั้นๆทราบล่วงหน้ามาก่อน จากนั้นจะมารอที่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล แล้วประสานให้ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ไปแจ้ง สภ.พื้นที่ ที่ต้องการมาดำเนินการสุ่มตรวจทราบ เพื่อจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุแล้วจึงจับเวลาดูว่าตำรวจ สภ.นั้นๆมีความพร้อมหรือมีความใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ ที่จะเข้ามาระงับเหตุวัยรุ่นตีกันหรือไม่ และอยู่ภายในระยะเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้หรือไม่ คือ ในเขตเทศบาลจะต้องใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที นอกเขตเทศบาลใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ซึ่ง สภ.เมืองประจวบทำเวลาอยู่ที่ 3 นาที 58 วินาที ถือว่าผลการตรวจประเมินดีเยี่ยม