เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)




ศบค.นำกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยประชาชน


7 เม.ย. 2563, 14:58





ศบค.นำกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยประชาชน



น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โรคโควิด19 โดยนำกระแสพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้กำลังใจคนไทยทุกคน ความว่า มีอะไรให้ช่วยก็ยินดี เพราะเป็นปัญหาของชาติ โรคระบาดไม่ใช่ความผิดของใคร เรามีหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุด ทำความเข้าใจปัญหา ไม่ใช่ยอมรับแต่ทำความเข้าใจปัญหา รู้เกี่ยวกับโรค บริหารจัดการแผนเผชิญเหตุ แก้ไขให้ดีที่สุด บริหารจัดการให้ประชาชนรู้วิธีป้องกันที่ถูกต้อง ปฏิบัติตามแผนตามสถานการณ์จริง เชื่อว่าต้องแก้ไขและเอาชนะได้ ที่ผ่านมานับว่าทำได้ดีกว่าหลายประเทศ น่าภูมิใจ แต่จะต้องมีระเบียบวินัยแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ มีความอดทน มีวินัยในตัวเอง ขอเป็นกำลังใจให้


สำหรับสถานการณ์วันนี้ มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 38 ราย เฉลี่ยผู้ป่วยสะสม 2,258 ราย ใน 26 จังหวัด หายป่วยแล้ว 824 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิตทั้งหมด 27 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่เริ่มลดลง ตั้งแต่ประกาศเคอร์ฟิว เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการทำงานของทุกคน ขณะที่ผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ติดจากที่บ้าน ที่ทำงาน กลุ่มเพื่อน กลับจากต่างประเทศ พื้นที่เสี่ยงและเขตชุมชน โดยผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น 25 รายอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนผู้ป่วยสะสมมากที่สุดอยู่ในพื้นที่ กรุงเทพฯ 1,201 ราย ภูเก็ต 138 ราย นนทบุรี 134 ราย สมุทรปราการ 99 ราย

ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี แต่ก็เริ่มมีประชาชนออกจากบ้านเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับวันแรกๆ ที่ประกาศเคอร์ฟิว อย่างไรก็ตามหลังจากประเทศไทย ประกาศไม่รับเที่ยวบินโดยสารจากต่างประเทศ ทำให้มีคนไทยติดค้างอยู่ที่สนามบินต่างๆ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ จะประสานกับสถานทูต / สถานกงศุล เพื่อรับคนไทยกลับ โดยจะโดยสารมากับเที่ยวบินที่จะเดินทางมารับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ติดค้างอยู่ที่ประเทศไทย ส่วนคนไทยที่ติดค้างอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย 24 คนที่ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ เนื่องจากมีอาการไข้ เสียงกับการติดเชื้อ จึงได้ประสานให้รักษาตัวอยู่ที่อินโดนีเซียก่อนจนกว่าจะหาย จึงจะเดินทางกลับมาได้










©2018 ONBNEWS. All rights reserved.