"จิตอาสาสังขละบุรี" รวมตัวกันช่วยดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบริเวณป่าใกล้น้ำตกตะเคียนทอง
8 เม.ย. 2563, 08:25
วันนี้ 8 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายปกรณ์ กรรณวัลลี ได้มอบหมายให้ สมาชิก อ.ส.เข้าช่วยดับไฟป่าร่วมกับจิตอาสาดับไฟป่าสังขละบุรี ที่เกิดจากการรวมตัวของประชาชนและเยาวชน ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี เพื่อช่วยเหลือทางราชการในการดับไฟป่า ภายหลังจากเกิดปัญหาไฟป่าในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จนส่งผลให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ เนื่องจากควันไฟและฝุ่นละอองที่เกิดจากไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและจากประเทศเพื่อนบ้าน
สถานการณ์ล่าสุดเกิดไฟป่าขึ้นในบริเวณป่าสงวนเขาช้างเผือกติดต่อกับหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง โดยไฟป่าได้ลุกไหม้เป็นบริเวณกว้าง โดยเจ้าหน้าที่และจิตอาสาฯ ได้เข้ามาช่วยกันทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ไฟลุกลาม และเข้าทำการดับไฟที่ยังคงไหม้ต้นไม้และตอไม้ เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าซ้ำ โดยใช้เวลานานกว่า 5 ชม.จนมั่นใจว่าจะไม่เกิดไฟป่าขึ้นมาในพื้นที่อีก จึงไดแยกย้ายกันกลับ
โดยนายศุภชัย พลทิพย์ แกนนำจัดตั้งกลุ่มจิตอาสาดับไฟป่าในครั้งนี้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังจากเกิดไฟป่าเมื่อเย็นวานนี้ ตนเองจึงได้ใช้face book ประการรับสมัครจิตอาสามาช่วยดับไฟป่าในครั้งนี้ ซึ่งวันนี้มีชาวบ้านแลบะเยาวชน ในพื้นที่อ.สังขละบุรี ให้ความสนใจมาร่วมเป็นจิตอาสากว่า 20 คน โดยทุกคนได้เข้ามาช่วยทำแนวกันไฟ และดับไฟที่เหลือ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟเกิดซ้ำและลุกลามไปอีก ซึ่งปัญหาไฟป่าในพื้นที่เป็นปัญหาที่ทุกคนควรมีส่วนร่วมในการแก้ไข อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งถ้าหากทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ก็จะช่วยให้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่ อ.สังขละบุรีลดน้อยลงได้
ด้านนายพันธสานต์ สหนิมิตกิตติกุล เยาวชนที่เข้าร่วมในครั้งนี้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยปกป้องผืนป่าและช่วยทำให้ไฟป่าลดน้อยลง ทำให้ทุกคนรู้สึกภูมิใจที่ได้เข้ามาดับไฟป่าในวันนี้และพร้อมจะช่วยเหลือทางราชการในการดับไฟป่า ในครั้งต่อไปอีก
ขณะที่อาสาสมัครมูลนิพิทักษ์กาญจน์ ได้นำรถยนต์กระบะบรรทุกน้ำเข้าช่วยดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือกบริเวณบ้านหม่องสะเทอ-ห้วยลึก-สามแยกวัดวังก์วิเวการาม ในพื้นที่หมู่ที่2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยมีชาวบ้าน พระสงฆ์และสามเณร ออกมาช่วยกันดับไฟป่า ที่ไหมติดต่อกันมากว่า3วันแล้ว เพื่อป้องกันไฟไม่ให้ลุกลามเข้าไปในพื้นที่สวนยางของชาวบ้านและสวนป่าของวัดฯ โดยมีรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลวังกะ นำน้ำเข้ามาช่วยดับไฟในครั้งนี้ โดยใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง จึงสามารถดับไฟป่าที่เกิดขึ้น
สำหรับไฟป่าที่ไหม้ติดต่อกันนานกว่า 2 สัปดาห์ ส่งผลให้มีพื้นที่ที่ถูกไฟป่าทำลายเป็นบริเวณกว้าง ทั้งในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก ปัญหาไฟป่าที่รุนแรงในปีนี้ สืบเนื่องมาจากสภาพอากาศที่แล้งจัด ส่งมีเศษหญ้าและใบไม้ที่แห้งซึ่งกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี นอกจากนั้นน้ำในลำห้วยต่างๆในแห้งขอด ไม่สามารถเป็นแนวกันไฟตามธรรมชาติได้ ประกอบกับฝนที่ทิ้งช่วงมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ทำให้ปีนี้สังขละบุรีต้องเผชิญวิกฤติไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยคาดว่าหากมีฝนตกลงมาในช่วงนี้สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละออง ในพื้นที่น่าจะดีขึ้น และหมดไปในที่สุด