วันที่ 2 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ชาวอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ได้นำกุ้งฝอยสดๆ ตัวโตๆ ขาวใส มาปรุงในลักษณะเหมือนการลาบ ส้า แบบทางเหนือซึ่งในพื้นที่บริเวณหนองเล็งทรายเรียกว่า ส้ากุ้งแบบโบราณ ที่นี่ ถือเป็นแหล่งกุ้งฝอยที่สำคัญของจังหวัดพะเยา ที่มักจะมีผู้เดินทางมาหาซื้อกุ้งฝอยจากแหล่งตรงนี้ไปประกอบอาหารหลากหลายชนิด

 

 

กลุ่มแม่บ้านบ้านสันสลี หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา นำกุ้งฝอยสดๆ ที่หาได้จากบริเวณหนองเล็งทราย แหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดของอำเภอแม่ใจ มาทำการปรุงเป็นอาหารเป็นเมนู ส้ากุ้งโบราณ ที่นำส่วนผสมของพริกลาบแบบชาวเหนือ นำมาผสมผสานเข้ากับมะเขือเผาะที่หันเป็นชิ้น รวมทั้งถั่วฝักยาว จากนั้นก็นำน้ำมะนาว ใบสะระแน่ รวมทั้งตะไคร้หั่น เข้าทำการคลุกเคล้าเป็นส่วนผสม ซึ่งเมนูดังกล่าวนั้นสามารถที่จะทำกินแบบสดๆ หรือจะทำให้สุก แล้วรับประทานก็มีรสชาติที่อร่อย ที่แตกต่างกันไป โดยเมนูดังกล่าวนั้นทางชาวบ้านในพื้นที่มักจะทำให้แขกผู้มาเยือนรับประทานกัน เนื่องจากกุ้งฝอยบริเวณดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นแหล่งที่มีกุ้งฝอยที่มีจำนวนมากที่สุด ในจังหวัดพะเยา และเป็นกุ้งฝอยที่มีลักษณะตัวใหญ่ สีใสน่ารับประทาน และขึ้นชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ จึงเป็นที่นิยมของลูกค้า โดยแม่บ้านส่วนใหญ่แล้วถ้าใครเดินทางมาเยี่ยมเยือน บริเวณหนองเล็งทรายดังกล่าวนั้น ก็จะได้รับประทานกุ้งฝอยสดๆ ในการทำส้ากุ้งสูตรโบราณ

นางไหมแก้ว ปิงเมือง อายุ 43 บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 7 บ้านสันสลี อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ตัวแทนกลุ่มท่องเที่ยวบ้านสันสลี หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ระบุว่า เมนูดังกล่าวนั้นชาวบ้านเรียกว่าส้ากุ้ง โดยจะนำกุ้งฝอยสดๆ มาทำการคลุกเคล้ากับส่วนผสมซึ่งจะมีมะเขือเผาะหั่น ถั่วฝักยาวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็จะนำตะไคร้หั่น และผักชี สาระแนเข้าทำการคลุกเคล้าจากนั้นก็จะนำพริกลาบ ซึ่งเป็นสูตรของทางร้าน นำน้ำมะนาว และน้ำปลาเข้าเป็นส่วนผสม โดยสามารถกินได้ตอนที่กุ้งสดๆ และยังเต้นอยู่ หรือจะทำให้สุกก็สามารถรับประทานได้โดยมีลักษณะรสชาติเสมือนการกินส้าเนื้อหรือลาบเนื้อแบบล้านนา

 

 

สำหรับหมู่บ้านสันสลี หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยเจริญราษฎร์ ดังกล่าว นั้นถือว่าเป็นหมู่บ้านการท่องเที่ยวของพื้นที่อำเภอแม่ใจ ที่มีแหล่งผลิตอาหารพื้นบ้านจากการประมง ซึ่งมีทั้งกุ้ง หอย ปูปลา ที่อาศัยเป็นจำนวนมากในบริเวณหนองเล็งงทราย และชาวบ้านก็จะประกอบอาชีพในการหา กุ้ง หอย ปู ปลาดังกล่าวมารับประทานและนำออกจำหน่าย โดยเฉพาะกุ้งฝอยซึ่งถือว่าเป็นแหล่งกุ้งฝอยที่สามารถนำไปจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดพะเยา เนื่องจากมีปริมาณที่มากและบางช่วงฤดูกาลชาวบ้านก็จะออกหาและได้กุ้งฝอย มากกว่าวันละ 5 ถึง 10 กิโล โดยจำหน่ายกิโลกรัมละ 250 บาท ซึ่งตรงนี้สามารถสร้างรายได้และถือเป็นจุดขายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว ซึ่งชาวบ้านระบุว่าหากเดินทางมาสถานที่แห่งนี้แล้ว ก็จะได้รับประทานในเรื่องของเมนูจากกุ้งฝอย ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะส้ากุ้งแบบโบราณ ที่มีผู้นิยมเดินทางมารับประทานกันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกุ้งฝอยบริเวณพื้นนี้จะมีลักษณะพิเศษคือจะมีตัวโตและใส นอกจากนั้นยังเป็นกุ้งฝอยที่มีความสะอาด เนื่องจากแหล่งน้ำดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นแหล่งน้ำที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์