วันนี้ (9 เมษายน 2563) ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์ประสานการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผลกระทบโรค COVID-19 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผลกระทบโรค COVID-19 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ตลอดจนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้อำนวยการกอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่ามีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาการพัฒนาบ้านเมือง การประชุมในวันนี้ เป็นการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อช่วยในการที่จะเอาชนะกับภัยพิบัติที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ การประชุมในครั้งนี้ เป็นการรับฟังข้อเสนอเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาและรับมือกับภัยพิบัติ ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐในพื้นที่ได้มีการดูแล และรับมือในการแก้ไขปัญหานี้อย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม หากมีส่วนไหนที่ทางหน่วยงานภาครัฐจะสามารถเข้าไปเติมเต็มได้ ทาง ศอ.บต. ยินดีที่จะเข้าไปประสานเชื่อมโยง ขอบคุณอย่างยิ่งที่ได้นำสิ่งที่เป็นประโยชน์มาแนะนำในการทำงานร่วมกัน ทั้งในการรับมือกับโรคระบาด และทั้งในส่วนที่จะต้องเพิ่มเติมแก้ไขปัญหาต่อไปในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการหารือในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิ ประเด็นแรงงานและนักศึกษาในต่างประเทศ ที่กลับมาจากต่างประเทศในช่วงนี้ อยู่ในระหว่างกักตัวเป็นจำนวนไม่น้อย และที่ยังติดค้างอยู่ในต่างประเทศที่ยังห่างไกลความช่วยเหลือ ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง ศอ.บต. ได้มีการประสานทางสถานทูต ประสานทางท่านกงสุลใหญ่ปีนัง และโกตาบารู ทุกวัน ได้มีการขอรายชื่อสถานที่ ที่ยังมีพี่น้องคนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตกค้าง ลำบาก และ ศอ.บต. ได้ร่วมมือกับทางสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข ส่งมอบเครื่องอุปโภคและบริโภคยังชีพ เพื่อช่วยเหลือคนไทยในประเทศมาเลเซีย ที่ยากลำบากในการดำเนินชีวิตช่วงโรค COVID 19 ให้มีปัจจัยยังชีพ เพื่อบรรเทาการดำรงชีวิตประจำวันอีกด้วย

นอกจากนี้ ศอ.บต. ได้มีแผนในการแก้ไขปัญหา ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ผ่านโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มุ่งให้ชุมชนเป็นผู้ดูแลคนในชุมชนด้วยกันเองอย่างเป็นระบบ พร้อมปรับเปลี่ยนงบประมาณเพื่อให้สอดคล้องกับการสกัดกั้น และแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคระบาด เนื่องจากให้สาธารณสุขจังหวัดดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวอาจไม่ทันการ จึงเป็นกลไกของ ศอ.บต. ที่ต้องยกระดับชุมชนและระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็ง ด้วยการจัดการของพี่น้องในชุมชนเอง