หลายภาคส่วนระดมช่วยเหลือ นักรบชุดขาว รพ.หลังสวน ขาดชุด PPE และหน้ากาก N95
9 เม.ย. 2563, 18:58
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ รพ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร คณะกรรมการ มูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวน นำเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อ ใช้ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี นพ.ศักดิ์สิทธิ์ มหารัตนวงศ์ ผอ.รพ.หลังสวน พร้อมแพทย์ พยาบาล ฝ่ายบริหารของ รพ.หลังสวน ร่วมให้การต้อนรับ
คณะกรรมการมูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวน นายปรีชา สุวีรานุวัฒน์ ประธานชมรม กำนัน-ผญบ.อ.หลังสวน ได้นำ เจลแอลกอฮอล์ 10 ลัง จำนวน 300 ขวด และแอลกอฮอล์ 99% จำนวน 6 ถัง ๆละ30 ลิตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะแพทย์ พยาบาล จนท.สธ.ของ รพ.หลังสวน ใช้ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ให้สามารถทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยทั้งจาก ไวรัสโควิด-19 และผู้ป่วยทั่วไป โดย นพ.ศักดิ์สิทธิ์ มหารัตนวงศ์ ผอ.รพ.หลังสวน กล่าวว่า "เจลล้างมือ และ แอลกอฮอล์ เป็นยาฆ่าเชื้อที่มีความจำเป็นมาก แอลกอฮอล์ จะนำมาทำเป็นเจลล้างมือและสเปรย์พ่น เพื่อทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ของ รพ. ต้องขอบคุณมูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวนเพราะสิ่งที่นำมามอบให้ในครั้งนี้มีความจำเป็นอย่างมาก สิ่งที่ขาดแคลนอย่างเร่งด่วน คือ ชุด PPE และหน้ากาก N95 เพราะต้องใช้ในการดูแลผู้ป่วย ใน รพ.หลังสวน มีผู้ป่วยติดเชื้อ 1 ราย และ ผู้ที่ต้องเฝ้าดูอาการอีกหลายราย อุปกรณ์ หน้ากาก N95 และ ชุดPPE ยังมีไม่เพียงพอ ท่านใดที่มีจิตกุศล ขอเชิญบริจาคได้โดยตรงที่ รพ.หลังสวน”
ทางด้าน นพ. นพ.ธัญธร ตันติพิระยะกิจ ได้นำไปดูจุดคัดกรอง กล่าวว่า ที่เป็นจุดเริ่มต้นมีพาทิชั่นแผ่นอคาลิสเพื่อป้องกันผู้ตรวจและผู้ป่วย ซึ่งได้รับบริจาคจากมูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวน จนครบทุกจุด ใน รพ.หลังสวน ซึ่งจะได้รับการออกแบบให้เหมาะสมในแต่ละจุดนั้นๆ ในสวนความกังวลทางด้าน สวัสดิภาพของบุคคากรทางแพทย์ นั้น อยากจะขอร้องให้ผู้ป่วยเปิดเผยข้อมูลจริงให้กับแพทย์ เพื่อจะได้ตรวจรักษา และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ในขณะนี้ ในส่วนของแพทย์ พยาบาลและ จนท.ของ รพ.ยังไม่มีใครต้องได้รับการกักตัว มีกำลังใจดี และ พร้อมจะต่อสู้ต่อไป
ในส่วน ของ นางวาสนา แสงสุวรรณ หัวหน้างานผู้ป่วยนอก พยาบาล ที่รับผิดชอบศูนย์คัดแยกโรคทางเดินหายใจ ไวรัสโควิด-19 กล่าวว่า ได้เปิดศูนย์มาครบ 1 เดือน พอดี ใช้กำลังคนของ รพ.เยอะมาก เนื่องจากเป็นงานที่ต้องละเอียดและซักถามเป็นเวลานาน เพื่อให้ได้ผู้ป่วยที่มีโอกาสติดเชื้อให้ได้มากที่สุด สิ่งเป็นปัญหาคือเรื่องการให้ประวัติของผู้ป่วย เนื่องจาก มีการเปิดเผยรายละเอียดของผู้ป่วยในสื่อโซเชียลมาก ทำให้ผู้ป่วยเกิดความกังวลว่าสังคมจะรู้เรื่องของตนเอง ทำให้ต้องซักประวัตินานอย่างน้อย 5 นาที แต่ยังดีที่มี พาร์ทิชั่นมากั้นระหว่าง จนท. กับผู้ป่วยทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แต่บุคลากรทุกคนมีความกังวลเรื่องการติดเชื้อ ถ้าได้ข้อมูลจริงไม่ครบก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องการเร่งด่วนในส่วนงานซักประวัติได้รับการสนับสนุนทั้งจากราชการและ ที่ ปชช.บริจาค แต่ก็ ต้องประหยัดเพราะไม่รู้ว่า โรคนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ในขณะนี้ทั้งแพทย์และพยาบาลจะเตรียมตัวตลอด 24 ชม. ทั้งที่อัตรากำลังขาดอยู่แล้ว แต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อ ก็ ต้องจัดกำลังเข้ามาช่วยกันดูแล จนกว่าคนไข้จะมีอาการปกติ ถึงแม้มีอัตรากำลังน้อยก็ต้องทำ อยากบอก ปชช. ว่าการไม่เคลื่อนย้ายสถานที่ การอยู่บ้าน จะดีที่สุด รักษาความสะอาด การล้างมือ การใส่หน้ากาก จะช่วยให้โรคนี้ลดลงได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเราช่วยกันอย่างจริงจัง ใน 1 เดือน น่าจะลดโรคนี้ลงได้