เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



บุกจับ "6โจ๋เมืองอุดร" สุมหัวก๊งเหล้าขาว - บิ๊วอารมณ์ก่อนเสพยา ฝ่าฝืนกฎหมาย


10 เม.ย. 2563, 08:31



บุกจับ "6โจ๋เมืองอุดร" สุมหัวก๊งเหล้าขาว - บิ๊วอารมณ์ก่อนเสพยา ฝ่าฝืนกฎหมาย




เวลา 21.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2563 ได้มีชาวบ้านบ้านหนองโอน​ ตำบลเชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธษนี ร้องเรียนต่อนายดรณ์​ สมิตะเกษตริน​ นายอำเภอเมืองอุดรธานี ว่า มีกลุ่มวัยรุ่น กำลังนั่งก๊งเหล้าขาวอยู่ในหมู่บ้าน ส่งเสียงดังลั่นหมู่บ้านและ คาดว่าจะเสพยาเสพติดกันด้วย นายอำเภอจึงได้สั่งให้นายชัยวัฒน์​ ธรรมวัตร ปลัดอาวุโส​ พร้อมด้วยนายเฉลิมศักดิ์​ อินทร์หา หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายบุญส่ง​ อารมณ์​ ปลัดอำเภอ นายบัญชารัก พงศ์อัมพรพินิต ปลัดอำเภอ​ ออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่​

 

 



เมื่อไปถึงบ้านเลขที่​ ​27​ หมู่ที่​ 7​ บ้านหนอง​โอน​ ตำบลเชียงพิณ​ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายอุดร​ - กุดจับ ได้พบกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 6 คน​ มีอายุตั้งแต่ 16-25 ปี อยู่ที่หน้าบ้านพบว่ามีการร่วมกันดื่มเหล้าขาว​ โดยใช้แก้วใบเดียวกัน เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า2019​ (COVID-19)และยังมีท่าทางเป็นพิรุธ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจค้นร่างกายกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด พบว่า 1ใน​ 6 คน มียาเสพติด ประเภทยาบ้า(เมทแอมฟีตะมีน)​ ซุกซ่อนอยู่ที่หัวกางเกง จำนวน 3 เม็ด​ จึงได้นำตัวทั้งหมดเข้ามาที่ฝ่ายความมั่นคง​ อำเภอเมืองอุดรธานี​ เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ซึ่งปรากฏว่ามีผลเป็นลบ​ ไม่พบสารเสพติด​  ส่วนวัยรุ่นทั้ง 6 รายบอกเจ้าหน้าที่ฯว่า นั่งวงก๊งเหล้าขาวกันและคาดว่าจะถึง 4 ทุ่มก็จะพากันเลิกเข้าไปในบ้านเพื่อเสพยาบ้า แต่พากันก๊งเหล้าขาวเพื่อบิ๊วอารมณ์ก่อน แต่ยังไม่ทันได้บิ๊วอารมณ์ได้เต็มที่ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมเสียก่อน

 


นายชัยวัฒน์​ ธรรมวัตร ปลัดอาวุโส เปิดเผยว่า ถึงแม้จะไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่การกระทำของวัยรุ่นทั้ง 6 คน​ มีลักษณะเป็นการมั่วสุมดื่มเหล้าขาวโดยใช้แก้วใบเดียวกันเวียนกันดื่ม​ อันมีลักษณะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า2019​ (COVID-19) จึงจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา วัยรุ่นคนที่พบยาเสพติด(ยาบ้า)​ในร่างกาย​ ฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และข้อหาฐานมั่วสุมดื่มเหล้าขาวในลักษณะเสียงต่อการแพร่เชื้อโรคกับกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 6 คน อันเป็นการฝ่าฝืนข้อ​ 5 แห่งข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 ​แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องรับโทษตามมาตรา​ 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามมาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือมาตรา 13 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ​ จึงได้บันทึกจับกุมทั้ง​ 6 คน​ ส่งพนักงานสอบสวนสภ.ห้วยหลวงเพื่อดำเนินคดีต่อไป//////////






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.