"อบจ.สกลนคร" รวมพลชวนคน อปท.141 แห่ง สละเงินเดือนตั้งกองทุนสู้โควิด-19
10 เม.ย. 2563, 10:23
วันที่ 10 เมษายน 2563 ทีหอประชุม สภา อบจ.สกลนคร นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร เชิญผู้บริหาร อบจ,ผู้บริหารเทศบาล,ผู้บริหาร อบต.เข้าหารืออย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด 19 ของ จ.สกลนคร ในปัจจุบันขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 1 ราย มีผู้เข้ารับการกักตัว 26,518 ราย ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยไป ทำให้เกิดแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาสู้กับเชื้อโรคร้ายโควิด โดยเบื้องต้น นายก อบจ.และนอง นายก รวมทั้งเลขา ที่ปรึกษา สละเงินเดือนเดือนเมษายน 2563 เพื่อตั้งเป็นกองทุนเริ่มแรก จำนวน 232,330 บาท หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จะสละเงินเดือนในเดือนต่อไป และอยากเชิญชวนผู้บริหารท้องถิ่นที่มีอยู่ในพื้นที่จำนวน 141 แห่ง ได้เสียสละเงินเดือนของตัวเอง เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ในการสู้ภัยโควิด 19 เช่น หน้ากากอนามัย เจ็บแอลกอฮอล์ เครื่องวัดไข้ ถังขยะติดเชื้อ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ เพื่อแจกจ่ายให้กับบุคคลสกรทางการแพทย์ หน่วยกู้ภัย จนท.ตำรวจ ทหาร อสม.และอื่นๆ นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกปิดหมู่บ้าน ผู้ที่ถูกกักตัว 14 วัน เขาเหล่านี้กำลังได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่มีรายได้ ดังนั้นพวกเราต้องช่วยดูแลพากเขา
นายก อบจ.สกลนคร กล่าวต่อว่า โควิดมีความเป็นมาอย่างไรเราไม่ทราบ แต่ทราบว่าความสามัคคีต้องเป็นหนึ่งเดียว จึงจะสามารถผ่านโรคนี้ไปได้ ซึ่งถือเป็นการแสดงพลังของคนท้องถิ่นเป็นแห่งแรกเพื่อนำร่อง แล้วก็จะมีองค์กรอื่นทำตาม การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นหน้าที่ของคนทุกคนที่จะต้องช่วยกันป้องกัน วันนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสกลนคร ได้แสดงจุดยืนอย่างแน่วแน่ ในการรวมใจกันเพื่อต่อสู้กับโควิด 19 ซึ่งนายสมาน ศิลาแดง นายก ทต.เจริญศิลป์ ประธานสันนิบาตเทศบาล จ.สกลนคร นายวิศรุต แก้วฝ่าย นายก อบต.ขมิ้น ในฐานะนายกสมาคม อบต.จ.สกลนคร และผู้บริหาร อปท.ทั้งหมดยกมือเห็นชอบ และมีการตั้งกองทุนขึ้นมาตั้งแต่วันนี้ ในชื่อกองทุนท้องถิ่นสกลรวมใจต้านภัยโควิด จัดทำหน้ากากผ้าที่ได้มาตรฐาน และต้องเป็นผ้าในท้องถิ่นของจังหวัดสกลนคร เช่นผ้าขาวม้า หรือผ้าย้อมคราม ถึงราคาจะสูงกว่าผ้าชนิดอื่นก็ตาม เพราะนอกจากจะช่วยประชาชน ที่จะได้รับหน้ากากผ้าไว้ใช้ป้องกันเชื้อโรค แล้ว ยังเป็นการช่วยผู้ประกอบการทอผ้าของจังหวัดสกลนคร ที่กำลังประสบปัญหายอดขายลดลง หากเรารวมพลังกันได้เช่นนี้ รับรองว่าท้องถิ่นจะก้าวเดินไปข้างหน้า ในการพัฒนาจังหวัดในอนาคต