สธ.ท่าอุเทน พร้อมศึกษาภูมิคุ้มกัน “คุณป้าขาเลาะ” หลังหายป่วยโควิด อาจช่วยคนได้อีกหลายชีวิต (มีคลิป)
10 เม.ย. 2563, 16:19
จากกรณีหญิงสูงวัยอายุ 63 ปี พื้นเพเป็นชาวบ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 6 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ทำงานเป็นแม่บ้านในผับชื่อดังย่านทองหล่อ กทม. มีผลยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 รายแรกของจังหวัดนครพนม โดยเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนครพนม ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้รับยาต้านและรักษาเชื้อไวรัสโควิด-19 ครบถ้วนสมบูรณ์ ถึงเวลานี้มีอาการหายเป็นปกติ ตามขั้นตอนผู้ป่วยจะต้องไปทำ home garden อยู่ที่บ้านอีก 2 อาทิตย์จนครบ 1 เดือน ซึ่งทาง รพ.นครพนม และทีมงานก็ได้มีการปรึกษากันว่า เพื่อไม่ให้เกิดความตระหนกกับชุมชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับคนไข้ ทาง รพ. จึงให้มีการดูแลรักษาพยาบาลอยู่ใน รพ.ต่ออีกจนกว่าจะครบ 1 เดือน เพื่อความสบายใจของทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะชาวบ้านท่าดอกแก้ว
ซึ่งนายประพจน์ วงศ์ล่าม สาธารณสุขอำเภอท่าอุเทน เปิดเผยเบื้องต้นว่า นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ท่านได้กล่าวถึงกรณีคนที่หายป่วยจากโรคโควิดแล้วจะมีภูมิคุ้มกันขึ้น แต่จะมีภูมิขึ้นชัดเจนนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากเริ่มป่วย แต่ถ้าดีที่สุดคือประมาณ 4 สัปดาห์หรือ 1 เดือน เพราะหากหลังจากนี้ภูมิคุ้มกันก็อาจจะค่อยๆ ลดลงไปอย่างช้าๆ โดยเอาเลือดมาแล้วสกัดเอาน้ำเหลืองที่มีภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดี้ ซึ่งถือว่าเป็นคอนเซ็ปต์ที่ดีกว่ายา เพราะภูมิคุ้มกันก็จะเข้าไปจับเชื้อโรคเลย ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ก็เอามาจากสมัยโรคซาร์ส ที่ใครป่วยแล้วรอดตายแล้วก็ขอเลือดมาใช้รักษา รวมถึงสมัยอีโบลาที่มีแพทย์ชาวอเมริกันคนหนึ่งติดเชื้อ และได้รับเลือดจากเด็กชายชาวแอฟริกันรายหนึ่งที่หายจากโรคอีโบลาแล้ว เป็นต้น
สำหรับคุณป้าจะเข้าเกณฑ์การบริจาคเลือดได้หรือไม่นั้น คงต้องให้ทางส่วนกลางพิจารณาตามขั้นตอน เช่น มีโรคประจำตัวหรือเปล่า และต้องมีร่างกายแข็งแรง โดยเลือดที่ใช้ก็จะใช้ปริมาณเหมือนกับการบริจาคเลือดตามปกติทั่วไป