ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ของเด็กนักเรียน ยี่ห้อฮอนด้า สกุ๊ปปี้ สีดำหมายเลขทะเบียน ขพ 13สุรินทร์ ล้มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังเสียหาย ไม่ห่างกันพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น C-HR สีขาว หมายเลขทะเบียน กท 9979 สุรินทร์ จอดอยู่ในสภาพกันชนรถด้านหน้าซ้ายยุบพังเสียหาย โดยมี น.ส.อรยา ไตรทิพย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/3 ถ.ดองกะเม็ด ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นคนขับ และยืนให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เด็กนักเรียนทั้ง 3 คนขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวอัด 3 ซ้อนท้ายกันมา พอมาถึงที่เกิดเหตุตนได้เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน แต่พอมองกระจกหลัง พบรถจักรยานยต์ของเด็กๆขับมาด้วยความเร็วและชนเข้ากับกันชนด้านซ้ายของรถอย่างจัง ก่อนจะกระเด็นไปคนละทิศละทาง ตนเองตกใจมาก จึงรีบหยุดรถทันที เพื่อให้การช่วยเหลือและโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยและ เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ซึ่งน้องนักเรียนที่ขับขี่สวมหมวกกันน็อคเพียงคนเดียว และบอกกับตนว่า กระจก หมวกกันน็อคที่ใส่ มืดมองไม่เห็น จึงชนเข้าอย่างจัง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวนเวร จะได้สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ที่ชัดเจน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ด้านนางลัดดาวัลย์ เกษมพงศ์ อายุ 33 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.1 ต.แสลงพันธ์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ลูกชายของตนเอง คือ ด.ช.จักรพันธ์ เกษมพงศ์ อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 ร.ร.วีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นคนขับ โดยมีน้องสาวคือ ด.ญ.กัญญารัตน์ เกษมพงศ์ อายุ 8 ปี ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 ร.ร.เมืองสุรินทร์ เป็นคนซ้อนท้าย และมี ด.ช.ธีรภัทร เกาะแก้ว อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 ร.ร.วีรวัฒน์โยธิน ซึ่งเป็นลูกชายของคนที่รู้จักกันฝากติดรถมาด้วยจึงพากันอัด 3 ขับรถกลับบ้าน ไม่คิดว่าจะมาเกิดอุบัติเหตุ ตนทราบข่าวจึงรีบขับรถมาดูด้วยความตกใจ