องค์การอนามัยโลก เตือนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 เร็วเกินไป อาจมีการแพร่ระบาดรอบใหม่
11 เม.ย. 2563, 15:30
องค์การอนามัยโลก ออกประกาศเตือนว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เร็วเกินไป และขาดความระมัดระวัง เพราะอาจนำไปสู่การแพร่ระบาดรอบใหม่ ขณะเดียวกัน นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แสดงความกังวลต่อสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของโลกในเวลานี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 33,700 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 502,000 คน มากที่สุดในโลก และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2,043 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 18,725 คน ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดสูงสุด และการดำเนินมาตราการเว้นระยะห่างทางสังคมได้ผลเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน เขากำลังพิจารณาให้ภาคธุรกิจในประเทศกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุด เท่าที่เขาเคยตัดสินใจ
ส่วนที่ สเปน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในยุโรป มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 158,000 คน และเสียชีวิตกว่า 16,000 คน อย่างไรก็ตาม สเปนมีรายงานผู้เสียชีวิตและติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปน เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดกำลังอยู่ภายใต้การควบคุม แต่อาจต้องขยายมาตรการปิดเมืองออกไปอีก
ด้านนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลี เตรียมขยายมาตรการปิดเมืองที่จะครบกำหนดในวันที่ 13 เมษายนนี้ ออกไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยอิตาลีมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 147,000 คน และเสียชีวิต 18,849 คน มากที่สุดในโลก
ขณะเดียวกัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอังกฤษ ทวีความรุนแรงขึ้น ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 980 คน ในรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิต 8,958 คน และมีผู้ติดเชื้อสะสม มากกว่า 73,700 คน ด้าน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ซึ่งอยู่ระหว่างการพักฟื้นอาการป่วยจากโรคโควิด-19 ในระยะแรกที่โรงพยาบาลในกรุงลอนดอน มีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถกำหนดวันที่จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้
ด้าน กรุงจาร์กาตาของอินโดนีเซีย ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยจะมีระยะเวลาบังคับใช้ 14 วัน จนถึงวันที่ 23 เมษายนนี้ ซึ่งจะกำหนดให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกนอกที่พักอาศัย ห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 5 คน กำหนดให้ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดการให้บริการ รวมถึงขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและส่วนราชการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านได้ โดยอินโดนีเซีย มียอดผู้ติดเชื้อ 3,512 คน และเสียชีวิต 306 คน มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้าน คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 46 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ 42 คน ขณะเดียวกัน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการ 34 คน โดยรัฐบาลจีนกังวลว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากต่างประเทศและผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ทั้งนี้ จีนมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อยู่ที่ 3,339 คน และมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 81,953 คน ในจำนวนนี้ ได้รับการรักษาหายแล้วมากกว่า 77,000 คน
ที่มา สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, politico