วันที่ 11 เม.ย. 63 เวลา 09.00 น.ร.ต.อ.อุทัย จอมพุทรา ร้อยเวรสอบสวน สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากนางสาววิมล ผิวมุข อายุ 30 ปี ว่ามีคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปี้ไอ สีขาว-ชมพู หมายเลขทะเบียน 1กค 7709 สระบุรี ของตนเองแล้วขับหลบหนีไป มุ่งหน้า จ.ลพบุรี บริเวณที่เกิดเหตุหน้าร้ายจำหน่ายรถจักรยานยนต์วัชร ริมถนนพหลโยธิน ม.12 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จึงประสานแจ้งวิทยุสกัดจับพร้อมแจ้งตำรวจทีมชุดสืบสวน ออกติดตามและลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบหลักฐานของคนร้ายเป็นรถจักรยานสีดำจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และพบกางเกงขาสั้นมีลวดลาย พบถูกทิ้งไว้ที่บริเวณรินถนนพหลโยธินขาเข้า จ.ลพบุรี ใกล้กับร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด คนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170 ซม. ผมสั้นเกรียน เสื้อแขนสั้นสีม่วง กางเกงขาสั้นสีดำมีลาย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายได้เดินทางไปยังจุดตรวจควบคุมแพร่ระบาดโควิด-19 ก่อนเข้าตัวเมือง จ.ลพบุรี เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด ได้รูปพรรณคนร้าย ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันอีกทั้งผู้เสียหายยืนยันว่าใช้คนร้ายที่ก่อเหตุเอารถจักรยานยนต์ไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

 

 

จากการสอบถามนางสาววิมล ผิวมุข พนักงานศูนย์บริการ ของร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์วัชร สาขาพระพุทธบาท ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ในช่วงเวลา 08.30 น. ตนเองมาทำงานตามปกติ จอดรถแล้วไม่ได้ดึงกุญแจรถออก จากนั้นไม่นานช่างซ่อมรถ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน ได้เห็นคนร้ายปั่นรถจักรยานมาจอดไว้ที่บริเวณหน้าร้าน แล้วเดินมาที่รถจักรยานยนต์ของตนเอง แล้วขับรถออกไปเลย เพื่อนร่วมงานจึงได้ตะโกนว่า ใครเอารถไป ใครเอารถไป ตนเองจึงรีบออกมาดู แล้วรีบขับรถจักรยานยนต์ติดตามไป คนร้ายขับมุ่งหน้าไปทาง จ.ลพบุรี ขณะที่ขับไล่ตาม รถเกิดยางรั่ว ก่อนถึงตลาดโรงเกลือ ทำให้ไปต่อไม่ได้ จึงได้ขับกลับมาแจ้งความที่ สภ.พระพุทธบาท ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นกับตนเองถือว่าเป็นอุทาหรณ์ ในเรื่องของการจอดรถ ไม่ว่าจะจอดรถไว้ที่ไหนก็ตามควรจะเก็บกุญแจทุกครั้ง เพราะว่าเหตุมันเกิดขึ้นแล้วมันแก้ไขไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะได้คืนไม๊ ตนเองก็รู้สึกเสียดาย ส่งมาตั้งนานแล้ว