ในส่วนของคนไทยเราสามารถบล็อกได้อยู่ ดูได้จากคนติดเชื้อทั้งหมด 9 คน ที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งหมดตอนนี้ไม่มีใครติดเชื้อเลย ทั้งหมดไม่ใช่รอดูอาการอย่างเดียว หมายถึงว่าตรวจแล๊ปแล้ว ว่าไม่มีใครติดเชื้อ ล็อตแรกที่มาจากเวทีมวยก็กลับบ้านหมดแล้ว แต่ต้องไปกักตัวที่บ้านต่ออีก 14 วัน ซึ่งผมได้ดูคลิปหนึ่ง ที่มีคนออกจากคุก ติดงานแล้วไปงัดแงะ เจ้าของบ้านตื่นมาพอดี ตนได้กำชับนายอำเภอ ท้องถิ่นทุกแห่งสามารถใช้งบประมาณได้ จังหวัดมีเงินในมือตอนนี้ 50 ล้าน ตนอนุมัติในหลักการให้ทุกอำเภอ อำเภอละ 1 ล้าน ไปสำรวจ อย่างแรกเรื่องอาหารการกิน ถุงยังชีพ ถ้าพี่น้องตกงานไม่มีเงินไปบอกนายอำเภอได้เลย อย่าไปทำอะไรที่มันไม่ดีไม่งาม ไม่สุจริต ตนยืนยันว่าตอนนี้ท้องถิ่นทุกแห่งพร้อมในการที่จะให้การสนับสนุน ตนกำชับด้วยว่า อย่างน้อยคน 4 กลุ่มจะต้องมีกิน คนถูกกักตัว คนยากจน คนแก่สูงอายุคนถูกทอดทิ้ง และคนว่างงาน ไปแจ้งที่กำนันผู้ใหญ่บ้านได้เลย หรือที่อำเภอ รวมไปถึงพระสงฆ์องคเจ้า ตนให้นายอำเภอไปสำรวจแล้ว และจะให้นำข้อมูลทั้งหมดเข้ามาในโปรแกรม Covid Alert Surin ที่เราจะสามารถดูได้ว่าบ้านหลังนี้แจกไปกี่ครั้งแล้ว หรือยังไม่ได้รับแจก หรือได้รับจนเกินพอดี ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยเฝ้าดูจากจังหวัดลงไป

โปรแกรมดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือของบุคคลากรทางการแพทย์ เริ่มเก็บข้อมูลจากผู้ที่ถูกกักตัวก่อน แล้วขยายผลไปเก็บข้อมูลในเรื่องอื่นๆมาใช้ประโยชน์ในการบริหารงานของจังหวัด เพราะฉะนั้น ต่อไปมีภัยอะไรในอนาคตก็จะสามารถรู้ได้ถึงในระดับครัวเรือน เอาไปลิงค์กับ Google Maps สามารถดูได้เลยว่าสภาพบ้านเรือนเป็นยังไง ก็เป็นข้อดีในวิกฤติเป็นโอกาส ในการบูรณาการข้อมูลต่างๆของทุกภาคส่วนเข้ามาในการใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตนได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมหมู่บ้านนิคม 3 ต.โคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ที่สั่งปิดหมู่บ้านหลังจากมีคนตายจากโควิด ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของพี่น้อง ไม่ได้ทำผิดกฏหมายอะไร มีการให้ความร่วมมืออย่างดี เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เราไม่รู้ว่าเราติดไม่ติด เราจะไม่ต้องไปสร้างผลกระทบให้ใคร การที่พี่น้องอยู่และให้หมอพยาบาลไปดูอย่างใกล้ชิด

ถ้ามีปัญหาเจ็บไข้ได้ป่วยเราจะรีบดำเนินการ จะได้รีบบีบวง ไม่ให้กระจายออกไปได้เร็ว ซึ่งส่วนใหญ่เข้าใจ น่ารักมาก เรื่องอาหารการกิน อบต.ก็ดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนพี่น้องที่ถูกกักตัวต้องการอะไร ก็มีการรวบรวมใบสั่งให้ จนท.อำเภอไปซื้อมาให้ทุกคนก็เข้มแข็งดี เหลืออีกไม่กี่วันก็จะพ้น เมื่อวานก็ไปเยี่ยมศูนย์กักตัวที่ อ.โนนนารายณ์ กลับจากทำงานที่กัมพูชา 9 คน ที่สีหนุวิลล์ เกี่ยวกับขุดน้ำมัน ซึ่งจะนำไปกักตัวที่ศาลากลางหลังใหม่ แต่พี่น้องเขามาขอ เพราะที่บ้านมีโรงเรียนอยู่ ซึ่งทางผู้อำนวยหารโรงเรียนก็ลงมาช่วยเต็มที่ทุกภาคส่วน คนที่อยู่ก็น่ารักมาก เขาป้องกัน กลัวว่าจะเบื่อ ก็มีการทำกิจกรรมพัฒนาโรงเรียน ทำสวนในโรงเรียน ทาสีใหม่โรงเรียน มีการรักษาระยะห่าง มีโต๊ะวางอาหาร ของแต่ละคน ถึงเวลาก็นำข้าวมาส่งให้หยิบไป เหมือนโปลิศไลน์กั้นบริเวณ ชาวบ้านมีความเข้าใจค่อนข้างมาก ทำให้เราสบายใจเรื่องตระหนักรู้ เฝ้าระวังเท่าทัน พี่น้องชาวสุรินทร์เราไม่แพ้ที่อื่น ผวจ.สุรินทร์ กล่าว