คืบหน้าเกี่ยวกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรคโควิด-19  หลังพบผู้ป่วยรายแรกเป็นหญิงสูงอายุ 63 ปี บ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 6 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา และได้รับการรักษาพยาบาลอยู่โรงพยาบาลนครพนม กระทั่งมีผลเป็นลบไม่พบเชื้อโควิด ซึ่งสามารถกลับไปพักฟื้นต่อได้ที่บ้านอีก 2 อาทิตย์ แต่เกรงจะถูกต่อต้านจากคนในชุมชน ทางโรงพยาบาลฯจึงแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการให้ผู้ป่วยรายนี้อยู่ต่อจนกว่าจะครบกำหนด ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

     ล่าสุด วันที่ 12 เมษายน 2563 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ)  พร้อมด้วยสำนักงานสาธารณสุขอำเภอศรีสงคราม ได้มีผลรายงานยืนยันว่าตรวจพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 1 ราย นับเป็นรายที่ 2 ของจังหวัดนครพนม  โดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นหญิงสาว อายุ 34 ปี ทำงานเป็นพริตตี้ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต

     หลังหยุดพักงานเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ได้เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงลำพังคนเดียว เพื่อกลับภูมิลำเนาบ้านดอนถ่อน หมู่ 12 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม และได้ไปรายงานตัวกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) โดยกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 มีอาการป่วยเนื่องจากทานอาหารแล้วลิ้นไม่รู้รส จึงเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม ก่อนทางแพทย์จะเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 อุดรธานี  และมีผลยืนยันติดเชื้อโควิด 

     เบื้องต้นทางทีมคัดกรองควบคุมเฝ้าระวัง ได้นำตัวผู้ป่วยส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพนม  โดยผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นรายที่ 2 หลัง ก่อนนี้ ได้พบผู้ป่วยรายแรก ที่ อ.ท่าอุเทน เป็นหญิงอายุ 63 ปี กลับมาทำงานสถานบันเทิงชื่อดังย่านทองหล่อ  กทม.  ซึ่งอาการล่าสุด ทางแพทย์โรงพยาบาลนครพนม ยืนยันอาการหายป่วยไม่พบเชื้อ แต่ยังฟักฟื้นที่โรงพยาบาลนครพนมอีกระยะ

     ทั้งนี้หลังมีการยืนยันพบผู้ป่วยรายที่ 2  สสจ.นครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่ทีมคัดกรองควบคุมเฝ้าระวัง ตรวจสอบวางแผนควบคุมกลุ่มเสี่ยง รวมถึงวางมาตรการดูแล ชาวบ้านในพื้นที่ ป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า หลังผู้ป่วยรายนี้กลับมาถึงบ้าน ได้เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง กักตัว ตลอดระยะเวลาก่อนที่จะมีอาการเจ็บป่วย ทำให้เสี่ยงน้อยที่จะแพร่ระบาด แต่ยังคงมีกลุ่มเสี่ยง คือบุคคลใกล้ใช้ภายในบ้าน รวม 3 คน ที่จะต้องเร่งกักตัว ตรวจสอบคัดกรอง ป้องกันการระบาดเพิ่มอีก

     ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมต่อ กรณีหญิงสาวรายนี้มีคนในหมู่บ้านให้รายละเอียดว่า เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตพร้อมกับหลานชายอัก 1 คน ระหว่างทางรถยนต์มีปัญหาบนเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร จึงโทรศัพท์ให้พี่เขยมาช่วยขับรถกลับ หลังมาถึงบ้านก็ไปรายงานตัวต่อ อสม. เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัวเองอยู่ในบ้านเป็นเวลา 14 วัน โดยสาวพริตตี้ไปคลุกคลีอยู่แต่ในบ้านพี่สาวและพี่เขยเท่านั้น ขณะนี้บุคคลใกล้ชิดดังกล่าวถูกนำตัวไปกักบริเวณและตรวจร่ายการหาเชื้อโควิดแล้ว