วันที่ 2 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กลุ่มเรารักชนบท นำโดย นายไพฑูรย์ พิมพ์ทอง (ประธานกลุ่ม) กลุ่มบ้านไผ่พัฒนาบ้านเกิด นำโดย นางเข็มทอง ภูชาดา (ประธานกลุ่ม) กลุ่มเปือยใหญ่รุ่งเรือง นำโดย นางเจริญสิน จันทสาร (ประธานกลุ่ม) กลุ่มชาวไร่ยั่งยืน นำโดย นายทนงค์ นามวัน (ประธานกลุ่ม) ร่วมกับสมาชิกกลุ่มชุมชนรอบโครงการโรงงานน้ำตาล อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และชาวไร่อ้อยกว่า 150 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เพื่อเข้ายื่นหนังสือสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น โดยมีนายชำนาญ ทองดี ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม เป็นตัวแทน ผวจ.ขอนแก่น รับหนังสือและกล่าวกับผู้มาสนับสนุนว่า จะได้นำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นทราบถึงความต้องการของผู้สนับสนุน ขอให้ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมายและพร้อมรับฟังเสียงของทุกกลุ่ม

ตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสือฯ กล่าวว่า ตามที่กลุ่มชุมชน ชาวบ้าน และชาวไร่อ้อยในพื้นที่อำเภอบ้านไผ่ อำเภอโนนศิลา และอำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ได้รับฟังการชี้แจงเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการผลิตน้ำตาลจากบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (บ้านไผ่) ซึ่งได้รับข้อมูลมาว่าเป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรม และกำลังจะมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของชุมชนในพื้นที่เมื่อวันที่ 21-23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่ก็ได้รับแจ้งว่าการรับฟังความคิดเห็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อลดความขัดแย้ง และทำความเข้าใจกับชุมชน ชาวบ้านมากขึ้น เพราะขณะนี้ยังมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง

ในพื้นที่อำเภอบ้านไผ่ อำเภอโนนศิลา และอำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น กลุ่มชุมชนรอบโครงการฯ ชาวบ้าน และชาวไร่อ้อย กว่า 2,300 คน ที่รอคอยโรงงานน้ำตาล และมองเห็นประโยชน์จากการมีโรงงานมาตั้งในพื้นที่ เพราะพื้นที่ดังกล่าว เป็นแหล่งปลูกอ้อย มีอ้อยมากกว่า1 ล้านตันจากหลายพื้นที่รอบๆ เช่น อำเภอบ้านไผ่ อำเภอบ้านแฮด อำเภอมัญจาคีรี อำเภอโนนศิลา อำเภอชนบท และอำเภอหนองสองห้อง ที่ขนส่งไปยังโรงงานน้ำตาลในระยะทางไกล การมีโรงงานน้ำตาลจะทำให้ชาวไร่ส่งอ้อยในระยะใกล้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ชาวบ้านมีแหล่งจ้างงาน มีอาชีพ มีรายได้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น ลดปัญหาหนี้นอกระบบ ชีวิตความเป็นอยู่ก็จะดีขึ้นตามมา ลูกหลานที่เคยต้องออกไปทำงานไกลบ้าน ก็จะได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิด ครอบครัวมีสุข ทำให้จังหวัดขอนแก่นของเราเกิดการพัฒนา และมีความมั่นใจว่าโรงงานน้ำตาลสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้เป็นอย่างดี จากมาตราการรักษาสิ่งแวดล้อม และที่ชุมชนส่วนหนึ่งได้ไปศึกษาดูงานมา