ล่าสุดทางนายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ได้กล่าวในที่ประชุม พร้อมฝากถึงสื่อมวลชน ตำรวจ และผู้นำชุมชน ให้ร่วมประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยนายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า การที่มีประชาชน มอบสิ่งของบริจาคให้กับเพื่อนมนุษย์ เป็นเรื่องที่ดี เพราะปกติแล้วน้ำใจคนไทยไม่เคยทิ้งกันใ นห้วงที่เพื่อนๆตกระกำลำบาก เดือดร้อนและประสบภัย คนไทยเราแบ่งปันน้ำใจมากันอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้ เหตุการณ์ นี้ ไม่เหมือนกันกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา 

นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า เนื้องจากสถานการณ์นี้ เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติมีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่กำลังบูรณาการทำการคัดกรองบุคคลกลุ่มเสี่ยงติดเชื้ออย่างหนัก และขอให้ประชาชน อยู่แต่ในบ้าน อย่างออกมาชุมนุมหรือมั่มสุมกัน จะทำให้การควบคุมการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ง่าย

ซึ่งในปัจจุบัน ในขณะนี้ ได้มีพลเมืองดี ได้ตระเวนแจกอาหาร ข้าวสารอาหารแห้งให้กับพี่น้องประชาชน  แต่การแจกจ่ายไม่มีระเบียบ ไม่มีการตรวจคัดกรอง ทำให้ผู้คนที่เข้าไปรับอาหาร ยืนชิดติดกัน และไม่มีการป้องกัน บางรายเด็กๆมาไม่สวมหน้ากากอนามัย เข้าแถวรับของแจก ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นอัตรายต่อสุขภาพ และเป็นปัญหา ต่อการยับยั้งโรคติดต่อได้ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ที่จะเเจกอาหาร ขอให้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย หากจะเเจกสิ่งของ ขอให้แจ้งต่ออำเภอเกาะสมุย หรือสาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย  ผู้นำชุมชน เพื่อได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดระเบียบการยืนเข้าแถวเว้นระยะห่าง และต้องสวมแมสก์ หน้ากาก และเจลล้างมือก่อนเข้าไปรับของ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคติดต่อ

ซึ่งภายหลังได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ในสื่อสังคมออนไลน์ นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย และ สถ.บ่อผุด ให้ตรวจสอบหากพบยังมีการมั่วสุมชุมนุม กันรับแจกอาหาร โดยไม่ได้รับอนาญาต ขอให้เข้าไปตักเตือนและให้ยกเลิกการแจก ให้เป็นการตักเตือนแทน  หากพบว่ายังมีการฝ่าฝืน อาจผิกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ  อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 3) ข้อ 5 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (2) เพื่อเป็นนการลดโอกาสการแพร่ระบาดของการติดเชื้อโรคโควิด-19 มิให้ขยายไปในวงกว้าง 

จึงกำหนดห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใด ๆ ทั่วราชอาณาจักร เว้นแต่เป็นการทำกิจกรรมภายในครอบครัวที่อยู่ในเคหสถานของตนเอง หรือกิจกรรมของทางราชการ ซึ่งมีมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่ปลอดภัย หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต้องรับโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางตนก็ไม่อยากใช้ยาแรง ไม่อยากใช้กฎหมายกับพี่น้องประชาชน ที่ได้ระบผลกระทบ แต่หากทุกคนไม่มีกฎกติกากัน ก็ต้องจำเป็น จึงขอให้ประชาชน เห็นใจและเข้าใจการทำหน้าที่ บุคคลากรทางการแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคระบาดไวรัสโควิด -19 แพร่เชื้อบนเกาะสมุย ขอให้ประชาชนอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ เพื่อเกาะสมุย