วันนี้ (13 เม.ย. 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ สถานที่เคยจัดกิจกรรมสงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ วัดต่างๆ ปิดเงียบทุกแห่ง เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเอาจริงออกตรวจสอบทุกตารางนิ้ว บางแห่งมีการปล่อยให้ทำกิจกรรม เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตักเตือนให้ยกเลิก แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกจับกุมดำเนินตามกฎหมายทันที

ผู้สื่อข่าวได้ออกไปตระเวนสังเกตการณ์ บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถนนสายนานาชาติ ถนนริมน้ำ พบแต่ความเงียบเหงาไม่มีกิจกรรมใดๆ ประชาชนที่เคยนำสินค้าออกมาวางจำหน่ายก็ไม่มี ประชาชนที่เคยตั้งจุดเพื่อเล่นน้ำก็ไม่เห็น เงียบปิดเมืองจริงๆ ประชาชนอยู่กับบ้านเพื่อชาติจริงๆ ในช่วงนี้ จะพอมีบางก็เป็นผู้ที่ถูกกักตัวห้ามออกนอกพื้นที่ รอวันที่พวกเขาเหล่านั้นจะเดินทางกลับประเทศเขาได้เท่านั้น ที่ออกมาเดินก็ไม่ได้ใช้จ่ายซื้อใดๆ ทั้งสิ้น เขาก็ลดการใช้จ่ายที่จำเป็นจริงๆ

สำหรับบรรยากาศแม่ค้าพ่อค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลบอกขี่รถจักรยานยนต์วนไปทั่วขายได้แค่ 80 บาท และมาตั้งแผงขายของฝากบริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว บอกที่ออกมาวางขายเพื่อจะมีรายได้บ้างเพราะหยุดไปเกือบ 1 เดือน คิดว่าจะขายได้แต่แล้วก็ขายไม่ได้ เพราะไม่มีคนมาซื้อ มีแต่คนมาดูเช่นกัน หลายคนต่างบอกว่าต้องทำใจ เป็นหนี้เขาก็ต้องยอมไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เคยค้าขายได้วันละเกิน 1 พันบาท ตั้งแต่เกิดปัญหาขายไม่ได้เลย เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ต้องทนต่อไป

ขอฝากให้ทุกคนอย่าท้อแท้ สู้ต่อไป มองคนที่เขาลำบากกว่าเราไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้ต่อสู้กันต่อไป ต้องยอมรับว่าเกิดปัญหาเชื้อโควิด-19 นี้ ร้ายแรงมาก เมื่อสมัยที่ฟองสบู่แตกว่าแย่หนักแล้ว แต่ครั้งนี้หนักว่ามากๆ ทุกอย่างปิดหมดไม่มีใครออกมาใช้จ่าย คนรุ่นเก่าๆ พอทนได้ แต่ปัจจุบันนี้ก็แงะกระปุกเพื่อเอาเงินที่สะสมไว้ออกมาใช้จ่ายแล้ว เด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่เคยเจอ และไม่ยอมปรับตัวเอง พ่อแม่ต้องยิ่งสู้หนักกว่าเดิมมากในยุคนี้ และเรื่องสำคัญคือจากที่มีการประกาศเคอร์ฟิว ออกมาเริ่มจะมีพวงงัดแงะเข้ามาขโมยสิ่งของกันแล้ว เมื่อสถานการณ์นี้นานออกไปยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรตามมาอีกเยอะ รัฐบาลออกประกาศจ่ายเงินชดเชย ประกาศเสียงตามสายทุกวัน แต่เมื่อไปลงทะเบียนแล้วก็เกิดปัญหาเยอะมาก

และสินค้าที่ขายดีมากช่วงนี้ก็คือ ทุเรียนมีการนำมาตั้งขายริมถนนหลายจุดจะมีประชาชนไปรอซื้อกันแน่นมาก และทุเรียนปีนี้ราคาไม่สูงมากเหมือนกับปีที่ผ่านๆ มาด้วย ประชาชนโดยเฉพาะวัยรุ่นจะชอบมากแวะซื้อกันเยอะ

และจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ถ้วนหน้าอยู่นี้ทุกคนต้องอยู่กับบ้าน ปัญหาที่กำลังตามมาคือขาดรายได้ ได้พบว่ามีกลุ่มประชาชนหลากหลายอาชีพ มีน้ำใจช่วงวิกฤติเช่นนี้ “คนไทยจะไม่ทิ้งกัน” ได้ออกมาประกอบอาหารเพื่อนำมาแจกฟรีแก่ประชาชน เพื่อลดปัญหาแบ่งเบาภาระของสังคม ของประเทศชาติในช่วงนี้กันอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นกลุ่ม “เพื่อนเสธเมืองกาญจน์” ได้รวมตัวกันจัดประกอบข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่ม จำนวน 500 ชุด มาตั้งแจกบริเวณถนนสายริมน้ำเมืองกาญจน์ เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชน โดยมีการจัดโซนระยะห่างตามรัฐบาลประกาศ มีการแจกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือก่อนเดินไปรับข้าวกล่องทุกคน โดยมีเจ้าหน้าที่สารวัตร ทหาร มาคอยดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไปรับข้าวกล่องในครั้งนี้เป็นอย่างดี