เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



จบด้วยดี!! น้าสาวยื่นมือช่วยหลานจ่ายหนี้ กยศ. แทน ยุติยึดทรัพย์ครูค้ำประกันเงินกู้


17 เม.ย. 2563, 17:24



จบด้วยดี!! น้าสาวยื่นมือช่วยหลานจ่ายหนี้ กยศ. แทน ยุติยึดทรัพย์ครูค้ำประกันเงินกู้




วันนี้ (17 เม.ย. 63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณี นางธนวรรณ ชุมแวงวาปี อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี หรือ สถาบันการพลศึกษาอุดรธานี เดิม อาศัยอยู่ที่บ้านหนองสวรรค์ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าร้องขอความเป็นธรรมว่าเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ให้กับ น.ส.น้ำฝน หรือ ภัทรปภา พรมชาลี อายุ 39 ปี ลูกศิษย์ ชาว ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี แต่เมื่อเรียนจบปริญญาตรี ได้ไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น และไม่ใช้หนี้กองทุน รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ย 238,583 บาท ทำให้ตัวเองต้องถูกกรมบังคับคดี อายัดที่ดิน 53 ตารางวา ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และประกาศขายทอดตลาด ซึ่งที่ดินแปลงนี้เตรียมจะสร้างบ้านใช้ชีวิตหลังเกษียณราชการ โดย นางบุญเพียง มูลปลัด อายุ 58 ปี แม่ของ น.ส.น้ำฝน บอกว่าไม่ทราบเรื่องที่ลูกสาวค้างชำระหนี้ เพราะที่ผ่านมาทราบว่า น.ส.น้ำฝน ให้เงินอดีตสามี นำมาใช้หนี้ กยศ.ไปแล้ว และตัวเองก็ไม่มีเงินที่จะนำไปใช้หนี้ให้กับ นางธนวรรณ

โดยวันนี้มีความคืบหน้า ที่สำนักงานบังคับคดี จ.อุดรธานี อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมอุดรธานี ถ.หมากแข้ง เทศบาลนครอุดรธานี นางธนวรรณ ชุมแวงวาปี ได้เดินทางมาพบกับ นางจิราภรณ์ มูลปลัด อายุ 53 ปี น้องสาวของ นางบุญเพียง มูลปลัด แม่ของ น.ส.น้ำฝน หรือน้าของ น.ส.น้ำฝน หลังได้รับการติดต่อจาก นางจิราภรณ์ ว่า จะนำเงินกู้ของหลานสาว ในส่วนของ นางธนวรรณ ค้ำประกัน มาจ่ายชำระหนี้ให้ในวันนี้

 

 



โดยก่อนหน้า นางจิราภรณ์ กล่าวกับ นางธนวรรณ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่หลานสาวมีเจตนาไม่ชำระหนี้ ซึ่งทุกคนในครอบครัวทราบว่า หลานสาวจ่ายเงินใช้หนี้หมดแล้ว โดยฝากเงินมาให้ทางอดีตสามีของหลานมาจ่าย จนมารู้ว่ามีการฟ้องร้องว่าครูของน้ำฝนถูกยึดที่ขายทอดตลาด มีข่าวออกมาว่า น้ำฝน เนรคุณกับครู ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง หลานตนไม่เคยคิดจะเนรคุณกับครู อยากให้รู้ว่าหลานตนไม่ได้เนรคุณอย่างที่มีข่าวออกไป แต่ที่รับโทรศัพท์ของครูไม่ได้ เพราะหลานไม่สบายต้องเข้าโรงพยาบาลต้องกักตัวที่ญี่ปุ่น ไม่ได้ทำงานก็ไม่มีเงิน เหมือนตนที่ทำงานนวดแผนโบราณที่พัทยา ก็ต้องกลับมาบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ซึ่งวันนี้ได้นำเงินมาชำระหนี้ในส่วนที่ครูเป็นผู้ค้ำประกัน หลังจากนี้ตนจะรับผิดชอบในส่วนหนี้ที่เหลือของหลานเอง

 

จากนั้น นางธนวรรณ และ นางจิราภรณ์ ได้เข้าไปยังสำนักงานบังคับคดี จ.อุดรธานี โดยมี นายณัฐพงศ์ วิสุทธิรังษี ทนายความตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจาก กยศ.ประจำ จ.อุดรธานี มาแนะนำขั้นตอน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของ สนง.บังคับคดี โดยมีการแจกแจงยอดหนี้รวมของผู้ค้ำทั้ง 4 คน รวมเงินต้นและดอกเบี้ย 238,583 บาท แต่ในส่วนของ นางธนวรรณ ที่เป็นผู้ค้ำประกันในปี 2540 เป็นต้นเงินกู้ 16,855 บาท ค่าปรับ 6,542.47 บาท ดอกเบี้ย 2,014.73 บาท รวมยอดของ นางธนวรรณ ที่ค้ำประกัน 25,412.19 บาท หากชำระเงินในส่วนนี้ การค้ำประกันที่ถูกทาง กยศ.ฟ้องยึดที่ดินก็จบเรื่อง ทาง กยศ.ก็จะดำเนินการเรื่องการคืนที่ดินกลับให้ทาง นางธนวรรณ ได้ทันที

 


โดยทาง นางจิราภรณ์ ได้เดินทางไปชำระเงินจำนวน 25,412.19 บาท ที่ธนาคารกรุงไทย พร้อมนำหลักฐานการโอนเงินให้ทางเจ้าหน้าที่ สนง.บังคับคดี ได้เร่งดำเนินการ ส่งหลักฐานต่าง ๆ ไปยัง กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.กรุงเทพฯ ให้ดำเนินการ ที่จะปลดเรื่องยึดอายัติที่ดิน 53 ตารางวา ของ นางธนวรรณ ที่จะดำเนินการเสร็จภายในวันนี้

หลังจากนั้น นางจิราภรณ์  น้าของ น.ส.น้ำฝน เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ครูไปหาแม่ของน้ำฝนที่บ้าน แม่แกที่เป็นพี่สาวของตนไม่ได้เรียนหนังสือ และป่วย แกอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้อโหสิให้แก่กัน มารู้ว่าพี่สาวเดือดร้อนก็เลยมาดำเนินการแทนให้ เรื่องมีทางออก และเงินส่วนของที่ครูค้ำประกันไม่กี่หมื่นบาท ตนก็พอจะไปยืมเงินมาจ่ายแทนให้ได้ ส่วนเรื่องที่ไม่เข้าใจว่าตัวของครูต้องจ่ายเงินเป็นแสน ๆ บาท ก็เข้าใจแล้ว มาถึงวันนี้ตนในฐานะที่เป็นน้าของน้ำฝน จะเป็นคนส่งเงินชำระหนี้ทาง กยศ.เอง อะไรที่ผ่านมาทำให้ครูไม่สบายใจ ก็ต้องขอโทษด้วย

 

ด้าน นางธนวรรณ ครูของ น.ส.น้ำฝน เปิดเผยว่า ได้ทราบถึงกระบวนการที่จะปลดที่ดินเราออกมาได้ ก็สบายใจแล้ว จะได้ไม่ต้องมากังวลในส่วนนี้ เมื่อทางน้าของน้ำฝน นำเงินมาจ่ายใช้หนี้ในส่วนเฉพาะของตน ทางเจ้าหน้าที่ของ สนง.บังคับคดี บอกเราว่า เรื่องของเราจบแล้วตรงนี้ ไม่ได้ผูกพันกับหนี้ของคนอื่นที่เหลืออีกแล้ว โดยทาง กยศ.จะถอนหมายยึดที่ดินของเรา รอให้ทางบังคับคดี ได้ประสานกับทาง กยศ.ส่วนกลาง ที่จะมีคำสั่งมาเท่านั้น เมื่อได้ที่ดินกลับมาแล้ว ตนก็จะหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีบ้านอยู่ โดยจะหาที่อยู่ให้ตัวเองกับที่ดินแปลงนี้ เพราะตอนนี้ยัง คงอาศัยลูกศิษย์อยู่

 

“หลังคุยกับญาติของน้ำฝน ตอนนี้ตนเข้าใจแล้วว่าทำไม่น้ำฝนถึงไม่รับสายของตน และเมื่อกี้ก็ได้คุยกับน้ำฝนด้วยตัวเอง ช่วงที่กำลังตรวจสอบเอกสาร ซึ่งน้ำฝนบอกว่าขอโทษที่เขาไม่ได้คุยตอนช่วงที่ติดต่อไปตอนนั้น เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่คุยด้วย เพราะเขาป่วย และขอความเห็นใจว่า เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่จ่ายเงิน ส่วนที่เหลือเขาจะรับผิดชอบเอง ซึ่งเราคุยกันไม่นาน พอเรารู้ว่าเขาป่วยจริง ไม่มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยง ก็สบายใจ ขอให้เขาหายป่วย ก็ยังคงรับเป็นลูกศิษย์เหมือนเดิม” นางธนวรรณ กล่าวในที่สุด







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.