ระยองครบ 14 วัน ไร้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ แต่ยังใช้มาตรการเข้มข้นถือปฎิบัติอย่างเคร่งครัด
18 เม.ย. 2563, 17:24
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า จังหวัดระยองไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นระยะเวลา 14 วัน แต่ยังคงต้องใช้มาตรการเข้ม คือ การใส่หน้ากากอนามัย/หรือหน้ากากผ้า ก่อนออกนอกเคหะสถาน ระยะห่างทางสังคม พักอยู่บ้าน ไม่เดินทางไปในที่ชุมชน/หรือพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค กินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางของตัวเอง ล้างมือด้วยสบู่/เจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
จังหวัดระยองได้เริ่มปฏิบัติการในการเตรียมการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ได้ทราบว่ามีการติดเชื้อที่เมืองอู๋ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดระยองมีทัวร์จีนเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งจังหวัดระยองมีประชากรหนาแน่น ทำให้มีภาวะความเสี่ยงสูง
ทางจังหวัดระยอง จึงได้จัดตั้งศูนย์บริหารและประสานสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดระยองขึ้น มีการประชุมติดตามสถานการณ์เป็นรายวัน หน่วยงานที่ดำเนินการเป็นหลักสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมกับหน่วยที่สนับสนุน ได้แก่ ตำรวจ ฝ่ายปกครององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดระยองพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อ จำนวน 6 ราย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากจังหวัดอื่น เช่น กรุงเทพฯ ชายแดนบริเวณอำเภออรัญประเทศ ซึ่งไม่มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในจังหวัดระยอง ซึ่งจังหวัดระยองได้นำมาตรการที่สำคัญให้หน่วยงานในการถือปฏิบัติโดยเฉพาะการควบคุมบุคคลที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยและมาตรการในการเฝ้าระวังกักตัวเองอย่างเข้มงวด ทุกขั้นตอนที่พบบุคคลที่เสี่ยง ที่ผ่านมา จังหวัดระยองไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม ในจำนวนผู้ติดเชื้อ 6 ราย รักษาตัวหายกลับบ้านได้แล้ว 4 ราย อีก 1 รายไปรักษาตัวกับผู้ปกครองที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร กรุงเทพ จะเห็นว่าขณะจังหวัดระยองไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ ถือว่าครบ 14 วัน (17 เม.ย. 63) จังหวัดระยอง ปลอดจากผู้ป่วยติดเชื้อ
ทั้งนี้เป็นเพราะได้รับด้วยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของทุกฝ่าย รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะที่ได้สนับสนุนและให้กำลังใจ ในการทำกิจกรรมเช่น การทำแอปพลิเคชั่นในการติดตามเฝ้าระวัง ตามที่สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้แอฟฯนี้ และการปรับปรุงทางเทคโนโลยีให้ระบบสื่อสาร ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ถึงกลุ่มเป้าหมาย ถูกต้อง ชัดเจน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สนับสนุนประสานงานกับภาคเอกชนนำน้ำยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาด big cleaning day ทั้งจังหวัด 8 อำเภอ ทุกอำเภอครอบคลุุม ทั้งชุมชน ท้องถิ่นที่มีการรวมตัวกัน เช่น ตลาด วัด สถานที่เสี่ยงอื่นๆ
ที่มา rayong