ต้นสังกัดแจง สาวสองเซลล์ขายรถ ด่ากราดหนุ่มไรเดอร์ ไล่ไสหัวไป
20 เม.ย. 2563, 10:34
จากกรณีมี "ไรเดอร์" ส่งอาหารรายหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตโพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะที่ไปส่งอาหารให้กับลูกค้าซึ่งเป็นสาวประเภทสองรายหนึ่ง แต่ถูกลูกค้าคนดังกล่าวต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงหลังจากที่ไรเดอร์คนดังกล่าว ไม่ยอมนำอาหารขึ้นไปส่งถึงห้อง แต่ให้ลูกค้าลงมารับที่หน้าคอนโดฯ จนทำให้ลูกค้าดังกล่าวไม่พอใจและต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง มีใจความว่า "ทำไม่ค่ายอื่นขึ้นไปส่งที่ห้อง" ทั้งที่ไรเดอร์พยายามอธิบายว่าเป็นระเบียบของบริษัทฯ แต่ลูกค้าคนดังกล่าว ไม่ยอมฟัง พร้อมยังต่อว่าอีกว่าที่ไม่ยอมขึ้นไปส่งเพราะจ่ายด้วยบัตรเครดิต ถ้าจ่ายเงินสดคงขึ้นไปส่ง และพยายามบังคับให้ไรเดอร์บอกชื่อ ก่อนจะสั่งให้วางอาหารกับพื้นพร้อมคำพูดสุดท้ายว่าให้ ไสหัวไป!
ทั้งนี้หลังการโพสต์ทำให้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากก่อนจะมีการแชร์โพสต์ออกไป จนล่าสุดผู้โพสต์ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป แต่ยังมีการโพสต์ในเพจอื่นๆ เช่น So cial Hunter และมีการแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ด้านหน้าคอนโดมิเนี่ยมแห่งหนึ่งให้พื้นที่ ต.รัษฏา อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 19 เม.ย.63 ที่ผ่านมา และนอกจากนี้ทราบว่า สาวประเภทสองคนดังกล่าวนั้นเป็นพนักงานขาย (เซลล์) ชื่อย่อ ม.ม้า ของบริษัทรถยนต์แบรนด์ดังที่ตั้งอยู่ใน ต.เดียวกัน
ล่าสุดที่เฟสบุ๊กของ "Nissan A.R Phuket นิสสัน เอ.อาร์ ภูเก็ต" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “กราบเรียน ลูกค้าและผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน จากเหตุการณ์ตามคลิปที่โพสลงสื่อ social media ต่างๆ ซึ่งมีพนักงานของบริษัทฯ ใช้คำพูดและกริยาก้าวร้าวรุนแรงไม่เหมาะสม ทางบริษัทฯ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้สถานการณ์ของโรคระบาดโควิด-19 และการปิดพื้นที่ในแต่ละตำบลของจังหวัดภูเก็ต ทำให้ประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงพนักงานมีความเครียดสะสม ทำให้อาจเป็นสาเหตุสื่อพฤติกรรมออกไปในทางที่ไม่เหมาะสม บริษัทฯ ได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนและจะมีการตั้งคณะกรรมการ หารือวิธีการดำเนินการต่อไป ตามมาตรการและระเบียบของบริษัทฯ ขณะนี้บริษัทฯ ปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 14-30 เมษายน ตามคำสั่งปิดพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต บริษัทฯ กราบขออภัย และขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเสมอมาคะ"
อย่างไรก็ตามหลังการโพสต์ขอโทษดังกล่าว ก็ได้มีคนภูเก็ตเข้าไปแสดงความเห็นต่อเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ระบุว่าบริษัทไม่ควรปกป้องพนักงานคนดังกล่าว พร้อมแนะแสดงรับผิดชอบด้วยการปลดพนักงานคนดังกล่าว