กรณีที่โลกโซเชียมีการเผยแพร่คลิปอาหารกลางวันนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ว่าอาหารกลางวันเมนูไก่ต้มจืดน้ำผัก แต่พบว่าในหม้ออาหารมีเพียงเศษผักและน้ำซุปเท่านั้น ไม่มีเนื้อไก่ ล่าสุดทางผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ลงตรวจสอบและอ้างว่า สาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่เวรตักอาหาร พรุ่งมือตักอาหารให้นักเรียนห้องแรกๆ หนักไป ทำให้นักเรียนห้องท้ายๆ ได้ปริมาณอาหารที่น้อย พร้อมกับมีคำสั่งย้าย น.ส.อำพร ด่านคงรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

 

ความคืบหน้าวันนี้ 3 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news ลงพื้นที่ตรวจสอบที่โรงเรียนอีกครั้ง และพบว่าเป็นช่วงถึงเวลาครูเวร และเจ้าหน้าที่เวรตักอาหารกลางวัน ให้นักเรียนระดับชั้นประถมปีที่ 2 จำนวน 240 คน ที่เดินเข้าแถวไปหยิบถาดอาหารที่วางบนโต๊ะ ก่อนจะเข้าแถวรับอาหารจากเจ้าหน้าที่เวรตักอาหารอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเมนูอาหารวันนี้เป็นผัดซี่อิ้วเส้นเหลืองกับลูกชิ้น , ต้มจืดไก่กับฟักเขียว และสับปะรด โดยเจ้าหน้าที่เวรตักอาหาร ได้ใช้ทัพพีตักผัดซีอิ้วให้นักเรียนคนละ 2 ทัพพี , ต้มจืดไก่กับฝักเขียวคนละ 1 ทัพพี และสับปะรดคนละ 1 ชิ้น ก่อนที่นักเรียนจะนำอาหารไปนั่งรับประทานบนโต๊ะ

อย่างไรก็ตามมีครูหลายคน ให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งกับผู้สื่อข่าว แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เปิดเผยใบหน้า หรือแม้กระทั้งเสียงก็ไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึก เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบในหน้าที่การงาน โดยกลุ่มครูดังกล่าว แสดงความรู้สึกสงสารผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ได้รับผลกระทบเพียงคนเดียว รู้สึกไม่เป็นธรรมกับผู้อำนวยการ ที่ผ่านมาผู้อำนวยการคนนี้เป็นคนตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบ ไม่เคยทุจริตในหน้าที่การงาน แต่ต้องรับกรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้กลุ่มครูยังให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้เทศบาล ฯ มีนโยบายให้โรงเรียนในสังกัดทั้ง 9 โรงเรียน ส่งรายละเอียดเรื่องงบประมาณอาหารกลางวันของนักเรียนในโรงเรียน มารวบรวมที่เทศบาล ฯ เพื่อต้องการประมูลอาหารกลางวันนักเรียนรวมกันครั้งเดียวทั้ง 9 โรงเรียน แต่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบันไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเกรงว่านักเรียนอาจได้รับอาหารไม่เพียงพอ หากมีผู้รับเหมาเอกชนรายเดียวรับผิดชอบอาหารกลางวันนักเรียนทั้ง 9 โรงเรียน หลังจากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนก็ถูกกดดันเรื่อยมา สุดท้ายผู้อำนวยการโรงเรียน ต้องยินยอมตามที่ทางเทศบาลฯ ต้องการ กระทั้งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น