วันนี้ (20 เม.ย.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จังหวัดกาญจนบุรี พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนทั้งหมด 8 ราย ขณะนี้ผู้ป่วยรับการรักษาและกลับบ้านแล้ว 6 ราย ส่วนอีก 2 ราย รักษาอยู่ รพ.พหลพลพยุหเสนา 1 ราย รพ.มะการักษ์ 1 ราย และจากรายงานพบว่าตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายล่าสุดคือ รายที่ 8 เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันรวม 20 วัน จังหวัดกาญจนบุรี ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่อีก 2 ราย จะกลับบ้านได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยจะมีการติดตามอาการจากทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคนในชุมชนจะช่วยส่งกำลังใจให้กับผู้ป่วยอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ทาง นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้เน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และเว้นระยะห่างในการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดีขึ้นจนหมดไปจากพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และประเทศไทย

ในส่วนของการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรของคนสัญชาติไทยจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางในพื้นที่จังหวัดชายแดน ที่มีแนวเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รวม 21 จังหวัด โดยเริ่มอนุญาตให้คนไทยกลับเข้ามาผ่านจุดผ่านแดนถาวร วันละไม่เกิน 100 คน ต่อ 1 ช่องทาง เริ่มวันที่ 18 เม.ย.63 เป็นต้นไป ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ใน 21 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา และยังมีคนงานที่เป็นชาวไทยต้องการกลับประเทศอยู่กว่า 389 คน นั้น

ซึ่งทางจังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการและคณะทำงานเพื่อรองรับการเดินทางกลับประเทศของคนไทย ผ่านด่านทิกิ ประเทศเมียนมา-บ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งในส่วนของคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทยผ่านทางด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน มีจำนวน 389 คน กำหนดแผนเดินทางกลับเข้าไทยจำนวน 4 วัน โดยเริ่มทยอยเดินทางกลับมาตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันแรก โดยแรงงานกลุ่มแรกที่กลับมามี จำนวน 98 คน และกลุ่มที่สอง วันที่ 19 เม.ย. จำนวน 92 คน กลุ่มที่สาม วันที่ 20 เม.ย. จำนวน 100 คน และกลุ่มที่สี่ เป็นกลุ่มสุดท้าย วันที่ 21 เม.ย. จำนวน 98 คน ตามลำดับ

โดยทางจังหวัดได้ทำการนำแรงงานชาวไทยกลับเข้ามาในช่วงประมาณเที่ยงคืนของทุกวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว ก่อนจะนำแรงงานเหล่านั้นไปส่งยังสถานที่กักกัน ซึ่งเป็นโรงแรม รีสอร์ท ที่ผู้ประกอบการ เสียสละให้จังหวัดกาญจนบุรี ใช้เป็นพื้นที่กักตัวแรงงานเป็นเวลา 14 วัน โดยไม่เปิดเผยว่าเป็นสถานที่ใด และไม่ให้ข้อมูลใดๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกรงปัญหาที่จะตามมา และอาจส่งผลให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก