โดยเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 3 กรกฎาคม 62 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า 0ที่ สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นางอำภา บำรุงพล อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.3 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นำตัวนายกมลฉัตร บำรุงพล อายุ 21 ปี ลูกชาย ซึ่งอยู่ในสภาพปากฉีกต้องเย็บ 4 เข็ม ใบหน้าเต็มไปด้วยแผลและรอยฟกช้ำ มาแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สายันตร์ ตุมระวัต รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ เพื่อแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มวัยรุ่นที่ปรากฏในคลิปเหตุการณ์ที่ลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน รุมทำร้ายภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนทางเข้าที่ว่าการอำเภอท่าแซะ โดยนายกมลฉัตร ได้ให้การเมื่อช่วงกลางคืนของวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนเองพร้อมแฟนและเพื่อนอีกสองคน ได้ชวนกันมาเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งหน้าสถานีรถไฟกลางเมืองชุมพร จนสถานบันเทิงดังกล่าวปิด ตนพร้อมแฟนและเพื่อนก้ได้ชวนกันกลับโดยใช้รถยนต์ของตนเป็นยานพาหนะเดินทางไปและกลับ เนื่องจากบ้านกับสถานบันเทิงห่างกันกว่า 70 กม. นายกมลฉัตร ให้การต่อว่า ระหว่างทางที่จะกลับบ้าน พวกตนได้แวะที่ร้านสะดวกภายในปั๊มทางเข้าอำเภอท่าแซะ และห่างจาก สภ.ท่าแซะ เพียง 1 กม.หลังจากที่ตนซื้อของเสร็จและออกมาเป็นคนแรก ก็เดินเตร็ดเตร่อยู่หน้าร้าน จนกระทั่งมีรถยนต์กำลังขับผ่านที่ตนเองยืนอยู่ ซึ่งตนก็เหลือบไปมองเผื่อจะรู้จัก โดยไม่คิดว่ามันจะมีอะไรเพราะเพียงแค่มองตามธรรมดาทั่วไปที่คนมักจะมองโน้นมองนี้ไปเลย แต่กลับไม่ใช่ดังที่ตนเองคิด เพราะคนขับรถยนต์กลับแสดงอาการไม่พอใจ จ้องมองตนเหมือนจะเอาเรื่องให้ได้ แต่ตนไม่สนใจ และพยายามเลี่ยงการมีเรื่อง เลยเดินไปที่รถยนต์ แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวได้ขับรถไปจอดทางออกบริเวณหน้าปั๊มแล้วเดินลงมาจากรถสามคน โดยคนเสื้อเชิ๊ตน้ำเงินร่องขาว เป็นคนเข้ามาถามตนว่า(มึง)ตนไปด่า(ขุย)อะไรเค้า(กู)ซึ่งตนก็บอกว่าไม่ได้ว่าอะไร วัยรุ่นคนเดิมก็เดินกลับไปที่รถ ซึ่งเรื่องน่าจะจบแล้ว นายกลมฉัตร เล่าต่ออีกว่า แต่พอมีรถยนต์อีก 2-3 คันขับเข้ามาจอดในปั๊ม คนสวมเสื้อเชิ้ตน้ำเงินร่องขาวคนเดิม พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ก็ลงจากรถก่อนจะปรี่พุ่งเข้ามาชกต่อยตน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นที่มาใหม่ก็วิ่งเข้ามาร่วมรุมชกต่อยจนตนล้มกลิ้ง กองลงกับเพื่อน ก่อนพวกที่รุมแยกออกไปเพราะแฟนและเพื่อนของตนออกมาจากร้านสะดวกวิ่งเข้ามาขอร้องให้หยุด ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นพวกนี้ยังไม่ยอมหยุดจะเข้ามารุมอีก และพยายามจะเอาอาวุธในรถออกมา จนเพื่อนที่มากับตนต้องวิ่งเข้าไปขอร้อง พวกนั้นจึงขึ้นรถกลับ ส่วนตนนั้นแฟนและเพื่อนก็หามร่างที่สะบักสะบอมนำส่งโรงพยาบาลท่าแซะ จนอาการเริ่มดีขึ้นจึงเดินทางมาแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ต่อไป ด้านนางอำภา บำรุงพล แม่ของนายกมลฉัตร ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนรู้เรื่องจากแฟนของลูกชายได้โทรมาเล่าให้ฟังว่าโดนรุมทำร้าย ตนเองถึงกับเข่าทรุด เพราะนายกลมฉัตร ถือว่าเป็นกำลังหลักของครอบครัว ซึ่งต้องช่วยแม่ทำงานหาเงิน รับจ้างทั่วไป นำมาจุนเจือครอบครัวที่พ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียง พี่ชายก็ไม่สมบูรณ์ และยังต้องส่งน้องเรียนอีก 1 คน หากเป็นอะไรไปครอบครัวของลำบากมาก

นางอำภา ยังกล่าวว่า ก็ยอมรับว่าเป็นพฤติกรรมของวัยรุ่น ที่ต้องออกไปเที่ยวสังสรรค์ แต่ลูกชาย ก็ไม่เคยเกเรหรือเหลวไหลที่ทำให้พ่อแม่หนักใจ และนอกจากนี้นายกมลฉัตร ยังสมัครเป็นทหาร โดยไม่ยอมคัดเลือก เพราะต้องการหาประสบการณ์ชีวิต และต้องการรับใช้ชาติ ซึ่งตนเองก็ต้องยอมเพราะความสมัครใจของลูก โดยต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ก็จะเข้าประจำการณ์ที่ค่ายเขตอุดมศักดิ์ชุมพร มณฑลทหารบกที่ 44 อีกด้วย