เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ (2 มิ.ย. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.จักรี พันเอ็ด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเทรลเลอร์บรรทุกสินค้าเสียหลักเฉี่ยวชนแผงคอนกรีตกั้นเสาสะพานลอย แล้วพุ่งชนคานสะพานลอยเก่าได้รับความเสียหาย เหตุเกิดบริเวณถนนสายเอซีย ตรงข้ามปั๊มร่มไทรขาขึ้นนครสวรรค์ กิโลเมตรที่ 50+700 หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง

ในที่เกิดเหตุพบรถเทรลเลอร์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ หัวลากยี่ห้อฮีโน่ รุ่นวิกเตอร์ 500 หมายเลขทะเบียน 64-6290 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท พีเอ็นพี ทรัคบอดี้แอนด์โลจิสติกส์ ชนอัดติดอยู่กับคานสะพานลอยเก่าที่อยู่ร่องกลางของถนนข้างทาง สภาพด้านหน้าซ้ายพังเสียหายยับเยิน ประตูซ้ายหลุดติดอยู่ที่คานสะพานลอย กระจกหน้าหลุดลงมาแตกกองอยู่กับพื้นถนน คานหน้า และถังน้ำมันแตกได้รับความเสียหาย มีน้ำมันดีเซลไหลนองอยู่ที่พื้นถนน ส่วนตัวเทรลเลอร์ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์  หมายเลขทะเบียน 71-2412 พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้รับความเสียหาย 

 

จากการสอบสวนคนขับทราบชื่อ นายศุภสิทธิ์ แน่นอุดร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 360 หมู่ที่ 3 ตำบลนาขอม อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ ให้การว่า ตนเองได้ขับรถเทรลเลอร์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สินค้าออกมาจาก อำเภอแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี มุ่งหน้าไปส่งที่จังหวัดนครสวรรค์ ขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลารุ่งสาง ได้เกิดเสียหลักปีนแผงคอนกรีตกั้นเสาสะพานลอย ก่อนที่จะไปพุ่งชนคานของสะพานลอยเก่าที่วางอยู่ร่องกลางของถนนจนหัวลากได้รับความเสียหาย เดชะบุญที่ตนเองและแฟนสาวที่นอนอยู่ด้านหลังไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากทำการสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ส่วนความเสียหายให้บริษัทประกันเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

 

 

สำหรับสะพานลอยที่รถเทรลเลอร์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ได้เคยเกิดอุบัติเหตุรถเทรลเลอร์บรรทุกรถแบคโฮ  ชนสะพายลอยคนข้าม ส่งผลทำให้สะพายลอยคนข้ามขาดตกลงมาทับหัวลากของรถเทรลเลอร์ และรถเก๋ง 2 คัน ที่กำลังใช้ทางผ่านมาเบรคไม่ทันชนกับคานสะพานได้รับความเสียหาย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย  เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การช่วยเหลือนำส่ง รพ.อ่างทอง จนทำให้เกิดการจราจรติดขัดทุกช่องทางรถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้มีรถติดสะสมยาวมากกว่า 10 กิโลเมตร โดยต้องปิดการจราจรบนถนนสายเอเซียสายหลักขาขึ้นนครสวรรค์ทุกช่องทาง ส่วนค่าเสียหายในครั้งนั้นประมาณ 10 ล้านบาท นอกจากคานสะพานที่ได้รับความเสียหายแล้ว  ยังมีบางส่วนของตอหม้อสะพานคนข้ามได้รับความเสียหายอีกด้วย  ซึ่งทางผู้กระทำความผิดได้รับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดและจะดำเนินการซ่อมให้ใหม่ แต่ระหว่างที่รอดำเนินการซ่อมแซมต้องมีชาวบ้าน และพระภิกษุในพื้นที่ต้องมาสังเวยชีวิตบนถนนสายเอเซียมาหลายรายแล้ว เมื่อทำการซ่อมแซมแล้วเสร็จคานสะพานลอยเก่าก็ยังคงถูกทิ้งร้างไว้ในร่องกลางริมถนนจนมีหญ้าขึ้นและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ