"จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม" วอนทบทวนมาตรการผ่อนคลายขนส่ง เข้ามาภายในประเทศต้องไม่เกิน 7 ชม.
28 เม.ย. 2563, 08:14
วันที่ 27 เมษายน 2563 ที่บริเวณหน้าด่านถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถขนส่งสินค้าทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ต่างต่อคิวข้ามไปส่งสินค้ายังฝั่งกัมพูชาอย่างคึกคัก หลังจากที่ผ่านการดำเนินเอกสารที่ด่านศุลากรที่อำเภอมะขามแล้ว ก็จะเข้าตรวจสอบถ่านรูปยืนยันคนขับและทะเบียนรถ ก่อนที่เข้าไปส่งสินค้า โดยขาเข้ากัมพูชาจะต้องผ่านด่านตรวจคัดกรอง COVID-19 ของกัมพูชากัมพูชาอีกชั้น
เช่นเดียวกันกับขาเข้าประเทศที่จะมีการเน้นการทำความสะอาด ฉีดน้ำยาซ่าเชื้อ COVID-19 ที่ตัวรถบรรทุกสินค้า ขณะที่ คนขับและผู้ที่นั่งมาด้วยจะต้องลงจากรถเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโรคที่สำนักงานแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง หากไม่มีอาการไข้หรือสุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID-19 ก็จะเข้าสู่กระบวนการของการเข้าประเทศได้ตามปกติ
ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือมาตรฐานการเฝ้าระวังคัดกรองของพื้นที่ชายแดนจันทบุรี ที่ปัจจุบันเหลือเพียงการเดินทางเพื่อการส่งออก-นำเข้าสินค้าเท่านั้น ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งก็สอดคล้องและสอดรับกับมาตรการผ่อนคลายการขนส่งขนถ่ายสินค้า บริเวณด่านพรมแดน ที่นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวถึงว่า เพื่อให้การส่งสินค้าตามแนวชายแดน และเศรษฐกิจไม่กระทบมาก เพราะบางแห่งถ้าขนส่งตามแนวชายแดนเข้ามาถูกกักตัว 14 วันแล้วไม่มีคนทำงาน และหาคนทำงานไม่ได้ ดังนั้นเพื่อให้การขนส่งตามแนวชายแดนอยู่ได้จึงมีมาตรการขึ้นมา คือ
1. ต้องมีพื้นที่ควบคุมขนถ่ายสินค้าเฉพาะ มีจุดคัดกรองให้ความมั่นใจว่าไม่มีการนำโรคเข้ามาเพิ่มเติม 2.หากติดเชื้อต้องมีที่พักในการกักตัว 3.หากจำเป็นห้ามลงจากรถขอให้อยู่บนรถ และ 4.เข้ามาภายในประเทศไทยต้องไม่เกิน 7 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ดร.รัฐวิทย์ มองว่า ข้อสุดท้าย จะทำให้เศรษฐกิจย้ำแย่ลงไป เพราะการส่งสินค้านั้นต้องใช้เวลา ยิ่งหากเป็นสินค้าที่ต้องใช้เทคนิคในการขนถ่ายด้วยแล้ว เวลา 7 ชม. คงจะเป็นไปไม่ได้เลย ประกอบกับยิ่งถ้าติดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวของไทยด้วยก็ไม่ทันอยู่ดี จึงอยากให้ผู้ออกมาตรการนี้ทบทวนอีกครั้ง แต่ถ้าหากใช้คำว่า ไม่เกิน 24 ชม. ก็พอจะรับได้