วอนช่วยเหลือ ! "สองสามีภรรยา" ฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินรักษาดวงตา อาจบอดทั้งสองข้าง
28 เม.ย. 2563, 13:03
วันที่ 28 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับแจ้งจากนายสมชาย ฟักทอง นายก อบต.แก่งเสี้ยน ได้สั่งการณ์ให้รองนายก อบต. พร้อมเจ้าหน้าที่ อสม. เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 225/4 หมู่ที่ 4 ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากได้เห็นทางเฟซบุ๊กว่ามีลุงเจ้าของบ้านกำลังเดือดร้อนดวงตาบอดทั้ง 2 ข้าง
และนางสาวอำไพ ฤทธิ์คำรพ รองนายก อบต.แก่งเสี้ยน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อสม. เดินทางนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือในเบื้องต้น พบว่าบ้านหลังดังกล่าว มี 2 สามี ภรรยา อาชีพรับจ้างทั่วไปอยู่จริง โดยมีนายฐิฎวัฒน์ วงษ์มงคล อายุ 59 ปี กับนางสาวฤดีรัตน์ ไลไซสง อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา นั่งอยู่หน้าบ้านที่รกไปด้วยเศษวัสดุของเก่าเหลือใช้ต่างๆ มากมาย
จากการได้พูดคุยเบื้องต้นถึงสภาพปัญหาของบ้านดัง ทำเอารองนายกถึงกลับต้องลุกหลบออกไปด้านนอกคิดถึงสภาพความเป็นคนจนแล้วต้องมาเผชิญปัญหาแบบนี้อยู่พักใหญ่จึงเดินกลับเข้ามาพูดคุยอีกครั้งกับ นางสาว ฤดีรัตน์ ไลไซสง ภรรยา เล่าว่าตามที่มีการโพสต์ลงในโลกโซเชียส ก็ได้พูดด้วยน้ำตาพร้อมความอัดอั้นกับสภาพที่พบเจอวิกฤติของชีวิตเช่นกัน ว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นความจริง โดยผู้โพสต์ก็เป็นลูกชาย ปัจจุบันทำงานที่กรุงเทพฯ แต่เจอเชื้อไวรัชโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 จึงต้องหยุดงานกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้นานเกือบ 1 เดือน แล้ว
แต่ช่วงนี้ได้ออกไปรับจ้างอยู่ร้านอาหารในตัวเมืองได้ต่าแรงวันละ 200 บาท เพื่อนำเงินมาช่วยให้แม่ กับ พ่อเลี้ยงได้เป็นค่าซื้อยามารักษาดวงตาพ่อเลี้ยงขณะนี้ โดยนางสาวฤดีรัตน์ ไลไซสง ภรรยา บอกว่า นายฐิฎวัฒน์ วงษ์มงคล ตนเองกับสามี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนหน้านี้ได้ไปรับจ้างทำงานเหล็ก แล้วได้เจียรเหล็ก เศษของใบเจียร เกิดกระเด็นเข้าดวงตาด้านขวา แล้วได้พาไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ (รพ.พหลพลพยุหเสนา) ของจังหวัดกาญจนบุรี แพทย์ได้ตรวจสอบแล้ว แจ้งว่าจะต้องไปรักษากับโรงพยาบาล นพรัตน์ ในกรุงเทพฯ เพราะว่า นายฐิฎวัฒน์ วงษ์มงคล ได้รับบัตร30 บาท หรือบัตรทอง จากในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเบื้องต้นแพทย์ได้จ่ายยาแก้อักเสพ มาให้ในเบื้องต้น
โอกาสนี้ นายฐิฎวัฒน์ วงษ์มงคล ได้พูดด้วยอาการสั่นเครือน้ำตาไหลตลอดเวลาว่า ตนเองในชีวิตไม่เคยย่อท้อกับงานใดๆ ค่าแรงมากน้อย สู้มาตลอด สู้จนเสียตาข้างซ้ายไปเมื่อเกือบ 20 ปี มาแต่ไม่ได้รักษาเพราะความจน แต่ก็สู้ด้วยดวงตาข้างเดียวมาตลอดไม่คิดว่าเมื่อ 4 วัน ก่อนจะต้องมาพบกับความมืดมนที่ดวงตามองอะไรไม่เห็น เริ่มเกิดอาการมัวๆและเจ็บปวดมากขึ้น แต่ไม่ทราบว่าจะเอาเงินที่ไหนเป็นค่าเดินทางไปรักษายังที่โรงพยาบาลนพรัตน์ ในกรุงเทพฯ นะเวลานี้ โดยตนเองไม่เคยคิดจะให้เป็นภาระต่อสังคม เลยหากว่ามีผู้ใจบุญสามารถให้ดวงตาตนเองกลับมามองเห็นได้อีกครั้งจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
สำหรับเวลานี้ ตนเองซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อตนเองเกิดอยู่ในสภาพเช่นนี้ ภรรยาก็จะต้องมาคอยดูแล รายได้ก็ไม่มีสัตว์เลี้ยงอีกจำนวนมากกำลังจะอดตาย ทำให้ตนเองต้องคิดมาก ไม่คิดว่าชีวิตจะเจอแบบนี้ เพราะตนเองที่ยังไม่เกิดสภาพเช่นนี้ รับจ้างทุกอย่าง ได้เงินมากน้อยไม่เคยเกลี้ยง เพื่อได้เงินมาเลี้ยงครอบครัว ไม่ต้องมีมากขออยู่แบบพอเพียงเท่านั้นพอ แต่เมื่อมาเจอสภาพตามองไม่เห็นแบบกะทันหันแบบนี้ทำให้ต้องคิดมาก ภรรยาต้องหามาให้กิน ก่อนหน้านี้ตนไม่อยากรบกวนภรรยา เดินไปเข้าห้องน้ำเกิดพลาดไปโดนเอาขอบประตูจนใบหน้าแตกยังเป็นแผลให้เห็นชัด
ส่วนนางสาว อำไพ ฤทธิ์คำรพ รองนายก อบต.แก่งเสี้ยน กล่าวว่าเรื่องนี้กำลังเร่งช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยการย้ายบัตรทอง เข้ามาในพื้นที่เพื่อทำการช่วยเหลือ หากนานไป อาจจะต้องเสียดวงตาไปได้ และเบื้องต้นได้เข้ามาดูสภาพความเป็นจริง เพื่อนำเรื่องกลับไปปรึกษากับทาง นายสมชาย ฟักทอง นายก อบต. แก่งเสี้ยน ก่อน และเห็นสภาพความเป็นจริงแล้วเกิดความรู้สึกสงสารครอบครัวนี้มากๆ เพราะคนเราเคยมองเห็นจู่ๆ มามองไม่เห็นอย่างกะทันหัน ความรู้สึกของเขาเป็นเช่นไร ประกอบกับครอบครัวยากจนมันไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่านี้เหลือที่จะบรรยาย