"สมเด็จพระสังฆราช" มีพระดำรัสถวายพระพร "สมเด็จพระราชินี" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
2 มิ.ย. 2562, 15:41
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2562
เนื่องในอภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า
“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ ได้เวียนมาบรรจบเป็นวาระแรก นับแต่เสด็จดำรงพระราชอิสริยยศ อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ จึงขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงความปีติโสมนัสในการเฉลิมพระชนมพรรษาครั้งแรก ของสมเด็จพระบรมราชินี ในรัชกาลปัจจุบัน
สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า เพิ่งทรงสถิตในพระเกียรติศักดิ์อันสูงสุดแห่งปวงนารี บัดนี้ย่อมจักต้องทรงรับพระราชภาระอันหนัก ในฐานะนางแก้วคู่พระบารมีพระประมุข และในฐานะมิ่งขวัญของอาณาประชาราษฎร์ ผู้ต่างมีความหวังตั้งใจจะพึ่งพระบารมี ให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข ดุจดั่งที่เขาทั้งหลายเคยได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระอัครมเหสีในอดีตพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆ
อย่างไรก็ดี แม้ในชั่วระยะเพียงไม่กี่วัน นับแต่ทรงสถิตในพระราชอิสริยยศ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ได้ทรงแสดงให้ชาวไทยได้ประจักษ์ ถึงความเข้มแข็ง อดทน คล่องแคล่ว แต่ก็นอบน้อม เยือกเย็น แช่มชื่น ละมุนละไม อันนับเป็นคุณธรรมสำคัญของราชนารีผู้เป็นใหญ่ นำความชื่นชมสมใจมาสู่พสกนิกรทั่วหน้า
ดังนี้ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจึงพึงตั้งดวงจิตไว้ด้วยพรหมวิหารธรรม น้อมถวายกำลังพระราชหฤทัย ให้ทรงบริบูรณ์ด้วยพระคุณสมบัติ เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของพระบรมราชจักรีวงศ์ได้อย่างเต็มพระสติกำลังความสามารถยิ่งๆ ขึ้นไป ด้วยความจงรักภักดี
ณ อุดมมงคลสมัยคล้ายวันพระราชสมภพมาบรรจบถึง อาตมภาพจึงขอยกภาษิตของเทวดา ที่สรรเสริญสตรีผู้มีปัญญา มากล่าวอ้างเป็นสัจจวาจา ว่า
น หิ สเพฺพสุ ฐาเนสุ, ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต;
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วิจกฺขณาฯ
แปลความว่า ‘มิใช่แต่บุรุษจะเป็นบัณฑิตได้ในที่ทุกสถาน แม้สตรีมีปัญญาเห็นประจักษ์ ก็เป็นบัณฑิตได้ในที่นั้นๆ.’
ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจานี้ ขอประชาราษฎร์ทั้งปวง จงสมัครสมานสามัคคีพร้อมเพรียงกัน ทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยให้วัฒนาสถาพร เพื่อสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ จักได้ทรงพระเกษมสำราญ ปลอดโปร่งทั้งพระวรกายและพระราชหฤทัย ทรงเต็มเปี่ยมด้วยพระกำลังที่จะทรงนำพาราชอาณาจักรไทยให้ประสบความสุขเกษมศานต์ยิ่งๆ ขึ้นไป สมดังพระราชประสงค์จำนงหมาย
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญของอาณาประชาชนสืบไป เป็นนิตยกาล เทอญ.”