รวบตัว "สาววัย34ปี" โพสต์ขายหน้ากากอนามัย - เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยไม่ได้รับอนุญาต
29 เม.ย. 2563, 08:16
วันที่ 28 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศปก.สภ.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานีพ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.น้ำโสม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.สุภัตรา ผุดผ่อง 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 1 ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สุภัตรา กุ๊กไก่ ผุดผ่อง” ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังไม่เสียภาษี” พร้อมของกลาง หน้ากากอนามัยจำนวน 2,746 ชิ้น และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ จำนวน 112 ชิ้น เป็นสินค้าจากประเทศเวียดนาม
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 พ.ต.ท.อรรพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ตรวจพบว่ามีบุคคลใช้ชื่อเฟซบุ๊กชื่อ “สุภัตรา กุ๊กไก่ ผุดผ่อง” มีการลงข้อความเสนอจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่นำเข้ามาโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร และอาจจะเป็นการจำหน่ายสูงกว่าราคาควบคุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายค้นศาล จ.อุดรธานี ที่ 47/2563 ลงวันที่ 27 เมษายน 2563 เข้าตรวจค้น พบเป็นร้านขายของชำ มี น.ส.สุภัตรา ผู้ต้องหาแสดงตัวเป็นผู้ดูแลบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวนที่โรงพัก จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ที่ได้จำหน่ายหน้ากากอนามัย และเป็นผู้ครอบครองหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือทั้งหมด เพื่อที่ขายให้กับประชาชน เพราะหน้ากากอนามัยยังเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปในช่วงไวรัสโควิด-19 และขายได้ราคาดีด้วย
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหานี้ไม่สามารถนำเอกสารการนำเข้ามาในประเทศมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ และไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากพบพยานหลักฐานว่ามีเจตนาขายสินค้าสูงกว่าราคาควบคุมมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าครอบครองสินค้าเกินปริมาณที่กำหนด (กักตุนสินค้า) มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.พิษณุฯ เปิดเผยต่อว่า ทางตำรวจภูธร จ.อุดรธานี จะดำเนินการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และนำเข้าแบบผิดกฎหมาย และจะยังคงตรวจเข้มทั้ง 20 อำเภอ และยังคงมาตรการด้านสาธารณสุข และตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เอาไว้อย่างเข้มข้น โดยเรื่องขอเคอร์ฟิว หากผู้ที่สัญจรไปมามีเหตุจำเป็น ก็มีข้อยกเว้นอยู่แล้ว ตลอดจนขณะนี้ก็มีการผ่อนคลายลงมาบางในระดับหนึ่ง หากประชาชนมีเหตุจำเป็นที่จะต้องเดินทางออกมาจากเคหะสถาน ในช่วงเวลาที่กำหนด 22.00-04.00 น.ก็ขอให้ประชาชนยื่นเอกสารความจำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ได้เลย เพื่อให้มันถูกต้องตามระเบียบ และข้อกฎหมาย