เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 1 พ.ค. 63 ที่ด่านคัดกรองระดับจังหวัด  บนถนนสายเอเซีย41 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร  รอยต่อระหว่าง จ.ชุมพร และ จ.สุราษฏร์ธานี พบว่า ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงใกล้ค่ำ ได้มีรถยนต์จำนวนมาก เดินทางมาจากภาคใต้ เพื่อมุ่งเข้าสู่ภาคกลาง และ จ.ชุมพร ตำรวจที่ด่านคัดกรองต้องทำหน้าที่อย่างหนัก เนื่องจากได้รับคำสั่งว่า รถและผู้เดินทางทุกคน ที่มีความจะเดินทางเข้ามายัง จ.ชุมพร ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่มีพื้นเพใน ชุมพร หรือมาจากจังหวัดอื่น

จะต้องทำการคัดกรอง ก่อนจะเข้ามาพักที่ จ.ชุมพร หรือ กลับมายังบ้านเกิดที่ จ.ชุมพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะ ผู้ที่มาจาก จ.ภูเก็ต จนท.จะทำการคัดกรองอย่างละเอียดมากขึ้น พร้อมจะสอบถาม เป้าหมายในการเดินไปพักที่ จ.ชุมพร เพื่อแจ้งไปยัง จนท.เฝ้าระวังใน จ.ชุมพร ซึ่งมีอยู่ ทุกหมู่บ้าน อีกทั้งในวันนี้มีรถและผู้เดินทางจาก จ.ภูเก็ต จำนวนมาก ผ่านด่านคัดกรองแห่งนี้ตั้งแต่ ช่วงบ่าย

นายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร ผู้รับผิดชอบด้านด่านคัดกรอง เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งจาก จ.ภูเก็ตว่า มีผู้แจ้งจะเข้ามาพักที่ จ.ชุมพร จำนวน 337 ราย  ทำให้ จ.ชุมพร ต้องหามาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ตอย่างเข้มข้น ถ้าไม่มีอาการ ก็จะต้องกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน โดยมี จนท.ของ จ.ชุมพรตรวจทุกวัน โดยไม่สามารถออกไปไหนมาไหนจากบ้านได้ แต่ ถ้ามีอาการไข้สูง หรือต้องสงสัยติดเชื้อก็จะนำตัวไปกักตัวดูอาการที่สถานกักตัวของ จ.ชุมพร ทันที สำหรับด่านคัดกรองระดับจังหวัดชุมพร ที่มารอยต่อกับจังหวัดอื่น ทั้ง ระนอง สุราษฏร์ ประจวบ จะมี จนท.คัดกรองปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา ในขณะนี้จังหวัดชุมพร ได้ควบคุมสถานการณ์ ผู้ติดเชื้อจนนิ่งไม่มีผู้ติดเชื้อมาแล้ว 9 วันเหลือผู้ที่รอผลตรวจอีกเพียง ไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้น ต้องคัดกรองผู้ที่เข้าพักอาศัย ใน จ.ชุมพร อย่างเข้มข้น แต่ จ.ชุมพร ไม่มีนโยบายห้ามเข้าออก จังหวัดชุมพรอย่างแน่นอน อย่างน้อยถ้าพบคนติดเชื้อก็จะรักษา ถ้าไม่ทีพักก็จะจัดหาให้ ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม//