เริ่ม 3 พ.ค. งดเดินทางข้ามจังหวัด พร้อมสั่งคัดกรองเข้ม ต้องแสดงหลักฐานโชว์ว่าจำเป็น !
2 พ.ค. 2563, 09:18
จากกรณีได้มีการเผยแพร่ภาพรถยนต์จำนวนมากกำลังมุ่งหน้าไปต่างจังหวัดเนื่องจากเป็นวันหยุดยาว 1-4 พ.ค.63 ทำให้ตอนนี้คนแห่กลับบ้านออกต่างจังหวัด ซึ่งทำให้หลายๆคนนั้นแอบกังวลใจอย่างมากพร้อมบอกว่า กลับบ้านแล้วอย่าลืมรับผิดชอบตัวเอง ต่อสังคม รายงานตัวกับผู้นำชุมชน อสม หรืออื่นๆ ของท้องที่นั้นๆ เพื่อรับคำแนะนำ และ ปฏิบัติตามกฎของชุมชน เพื่อลดควาเสี่ยงติดไวรัสโควิด-19 ด้วย
ล่าสุด (1พ.ค.63) ราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5) ซึ่งเป็นข้อกำหนดการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ ให้คงต่อเนื่องต่อไป ยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด 19 มีรายละเอียดดังนี้
1. การห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 - 04.00 น. ของวันถัดไป ยังคงใช้อยู่
2. การห้ามหรือจำกัดการดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างตาม พ.ร.ก. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
(1) ห้ามใช้สถานที่โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาจัดการเรียนการสอน ทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
(2) ห้ามจัดการประชุมที่มีคนจำนวนมาก เช่น การประชุม การสัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายสิ่งของ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่และต้องเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1 เมตร
(3) ห้ามใช้ท่าอากาศยานเพื่อการขึ้นลง เว้นแต่เป็นไปตามประกาศเงื่อนไข
(4) ให้ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา และหลักเกณฑ์ที่นายกรัฐมนตรี ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กำหนดเอาไว้ แบ่งออกเป็นมาตรการสำหรับชาวต่างชาติและชาวไทย ให้สอดคล้องกับความสามารถเจ้าหน้าที่ในการรับมือ
(5) ให้เจ้าหน้างานสั่งหรือกำหนดเงื่อนไขเข้ามาในราชอาณาจักรได้ โดยแยกกัก คุมสังเกตุ ในพื้นที่ที่สถานราชการกำหนด
(6) ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งปิดสถานที่ต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการแพร่ COVID 19 เช่น โรงมหรสพ ผับ บาร์ สถานบริการ สวนสนุก ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
(7) ผู้ว่าราชการจังหวัด อาจพิจารณาปิดหรือจำกัดการเดินทาง หรือสั่งงดกิจกรรมอื่นนอกเหนือจากข้อประกาศดังกล่าวได้
3. คำสั่งที่กำหนดตามข้อ 2 (3) (4) (5) (6) และ (7) ถือว่าเป็นคำสั่งตามข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ด้วย
4. การปฏิบัติศาสนกิจหรือศาสนพิธี ให้เป็นไปตามดุลยพินิจและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ปกครองสถานที่ศาสนสถานนั้น ในกรณีมีมาตรการหรือคำแนะนำขององค์กรทางศาสนานั้นหรือของทางราชการเกี่ยวกับการป้องกันโรค ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการหรือคำแนะนำดังกล่าว
5. ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งต้องรับคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าปกติ และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง