ภาพน่ารัก !เจ้าหน้าที่ รับบทเป็นพ่อแม่จำเป็น ดูแลช้างน้อย ที่พลัดหลงแม่
2 พ.ค. 2563, 12:04
นายธานี วงศ์นาค หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเรื่อง พบลูกช้าง 1 ตัว เพศผู้ อายุประมาณ 2-3 เดือน เดินเข้าไปในหมู่บ้าน บ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 27 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา
หลังรับแจ้ง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมหัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเจ้าหน้าที่จำนวน 30 นาย ดำเนินการเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบตามคำแจ้ง
ผลการลงพื้นที่ พบว่า เป็นลูกช้างป่า ตัวยังเล็ก อายุประมาณ 2-3 เดือน เดินอยู่ตรงทางเข้าศาลาประชาคมของหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ ร่วมกับราษฎรบ้านไผ่งาม ช่วยกันจับลูกช้าง เพื่อนำออกจากหมู่บ้าน แต่จับตัวไว้ไม่อยู่ เนื่องจากลูกช้างแข็งแรงและดิ้น จึงได้เปลี่ยนแผนเป็นร่วมกันทำการต้อนลูกช้างให้ออกจากหมู่บ้าน กลับเข้าป่าไปหาฝูง แทน
แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน ลูกช้างได้หลบหายไปท่ามกลางความมืด แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ละความพยายาม ยังแกะรอยติดตามลูกช้างอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกรงว่าลูกช้างอาจจะได้รับอันตราย เช่น ตกลงไปในบ่อน้ำ หรืออาจโดนสุนัขไล่กัด เจ้าหน้าที่ออกติดตามหาลูกช้างกันทั้งคืน แต่ไม่พบ
จนกระทั่ง เวลาประมาณ 08.30น. ของวันที่ 28 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้พบลูกช้างป่ากำลังเดินอยู่บนเส้นทางระหว่างบ้านไผ่งาม-ทุ่งแฝก จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ชุดติดตามลูกช้าง มาช่วยจับลูกช้าง และสามารถจับไว้ได้ พร้อมต้อนนำไปอนุบาลต่อที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้งก่อน เพราะไม่ทราบแน่ชัดว่าลูกช้างพลัดหลงฝูงจากบริเวณใด และ จากช้างฝูงใด เพื่อความปลอดภัยของลูกช้าง เจ้าหน้าที่จึงนำลูกช้างไปพักไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไว้ก่อน
ทั้งนี้ ขสป.ห้วยขาแข้ง สั่งการให้ชุดลาดตระเวนติดตามฝูงช้างในพื้นที่ รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า ว่ามีการบันทึกฝูงช้างที่มีลูกช้างไว้หรือไม่ เพื่อวิเคราะห์ ว่าลูกช้างมาจากฝูงช้างใด จะได้นำลูกช้างกลับเข้าสู่ฝูงให้ถูกฝูงต่อไป
จากการสอบถามราษฎรในพื้นที่บ้านไผ่งาม และบ้านบึงเจริญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับบริเวณที่เกิดเหตุ แจ้งว่าฝูงช้างที่ลูกช้างพลัดหลง น่าจะพลัดหลงมาจากป่าในพื้นที่ป่าที่เตรียมการจะประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ท้องที่ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี คาดว่าน่าจะพลัดหลง เพราะตกใจและแตกตื่น เมื่อเจอกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาหาตัวอึ่ง โดยกลุ่มชาวบ้าน เมื่อเจอช้างมักจะจุดประทัด เพื่อไม่ให้ช้างเข้ามาใกล้ ทำให้ช้างทั้งฝูงตกใจวิ่งหนีไป ทิ้งลูกช้าง 1 ตัว ไว้ ทำให้ลูกช้างพลัดหลงออกจากฝูงดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 28 เมษายน 2563 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 พร้อมทีมงานสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ลงพื้นที่เพื่อตรวจดูสภาพและสุขภาพของลูกช้าง พบว่าลูกช้างมีความแข็งแรงมาก ส่งเสียงร้องเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะเวลาหิวนม
จากนั้นได้เรียกเจ้าหน้าที่ประชุมเพื่อวางแผนในการหาทางปล่อยลูกช้างให้คืนสู่ฝูงอย่างปลอดภัย ซึ่งจะต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อให้ทั้งเจ้าหน้าที่ และลูกช้างปลอดภัย เพราะหากปล่อยลูกช้างเข้าผิดฝูง ลูกช้างอาจถูกช้างต่างฝูงทำร้ายจนตายได้ รวมทั้งหากได้รับการเลี้ยงดูไม่ถูกวิธี ลูกช้างอาจป่วยหรือติดโรคได้ ดังนั้นเพื่อความรอบคอบ ปลอดภัย และให้การปฎิบัติตรงตามหลักวิชาการ เห็นควรให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ และประสบการณ์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาช่วยให้คำแนะและดำเนินการโดยด่วนต่อไป
ล่าสุด เวลา 05.00 น. มีเสียงช้างป่าและลูกช้าง ส่งเสียงร้องตอบโต้กัน เสียงตอบจากช้างตัวอื่นในป่า คำนวณระยะทางจากเสียงที่ร้อง คาดว่าอยู่ห่างประมาณ 1 กิโลเมตร เวลา 06.00 น ป้อนนมลูกช้างกินไป 3 ลิตร เวลา 07.00 น.ดำเนินการส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจที่สถาบันสุขภาพสัตว์ โดยส่งไปทางรถตู้ และจนถึงขณะนี้ ลูกช้างยังอยู่ในคอกที่เตรียมปล่อยคืนป่า เพื่อรอแม่ช้างมารับกลับเข้าป่าต่อไป
ที่มา ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช