กรณีที่จังหวัดภูเก็ตกำหนดมาตรการผ่อนปรนให้กลุ้มผู้ใช้แรงงานที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สามารถเดินทางกลับบ้านเกิดตามภูลำเนาได้ แต่กำหนดให้ผู้ใช้แรงานทุกคนต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการที่กำหนด เพื่อขออนุญาตเดินทางกลับบ้านตามภูมิลำเนา ในส่วนของกลุ่มผู้ใช้แรงานในจังหวัดภูเก็ตที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดนครศรีธรรมราช และต้องการเดินทางกลับบ้าน มีการขอขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 4,000 คน 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.63 ที่บ้าน หมู่ 3 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีนายวิชนันท์ เสนเสนา อายุ 28 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เดินทางกลับบ้านเกิด เปิดเผยความรู้สึกว่า ตนมีอาชีพบาริสต้า บาร์เทนเดอร์ ของบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ใน อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังเกิดการระบาดไวรัสโควิด – 19 บริษัทต้องปิดบริการชั่วคราว ยอมรับว่าช่วงเดือนแรก ยังไม่เดือดร้อนมากนัก เพราะมีเงินช่วยเหลือของประกันสังคม แต่เมื่อเข้าเดือนที่สอง เริ่มเดือดร้อน โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือ เรื่องถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง จากหมู่บ้าน และเทศบาลในพื้นที่ พอได้ประทังชีวิตไปวันๆ ขณะที่เงินเก็บเริ่มร่อยหรอ เพราะต้องใช้จ่ายทุกวัน ค่ากิน ค่าบ้านเช่า เมื่อทางจังหวัดภูเก็ตมีมาตรการผ่อนปรนให้กลับบ้านตามภูลำเนา จึงตัดสินใจกลับบ้าน เพราะหากอยู่ต่ออีกคงเดือดร้อนมากว่านี้ จึงไปขอขึ้นทะเบียนตามมาตรการ เพื่อเดินทางกลับบ้าน และเดินทางด้วยรถส่วนตัวถึงบ้านที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (1 พ.ค.63) อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางกลับบ้าน ได้ให้แม่แจ้งกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อรายงานตัว และกักตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ตนขอขอคุณชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ให้การต้อนรับ และยืนยันว่าจะกักตัวเองอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของภาครัฐ

นายศักดิ์ชัย โกกิฬา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้าน อสม.ทราบถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด – 19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่ลูกบ้านที่เดินทางมาจากจังหวัดกลุ่มเสี่ยง เช่น กรุงเทพมหานคร หรือ ปริมณฑล รวมทั้งต่างประเทศ ให้มารายงานตัว เพื่อเข้ามาตรการกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ล่าสุดเมื่อวานนี้ตนได้รับการประสานจากลูกบ้าน ว่าลูกหลานที่ทำงานที่ จ.ภูเก็ต จะเดินทางกลับบ้านที่ ต.โพธิ์เสด็จ จึงพร้อมด้วย อสม. มาตรวจวัดไข้ และมอบกับเจลฆ่าเชื้อ หน้ากากผ้า พร้อมกับขอความร่วมมือให้กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของภาครัฐ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ด้