เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปลัดมท.แจง 3 ข้อ ยืนยันปชช.เดินทางออกจากภูเก็ต "ตรวจคัดกรองตามมาตรฐาน" ทุกรายแล้ว


3 พ.ค. 2563, 14:35



ปลัดมท.แจง 3 ข้อ ยืนยันปชช.เดินทางออกจากภูเก็ต "ตรวจคัดกรองตามมาตรฐาน" ทุกรายแล้ว




วันนี้ ( 3 พ.ค.63 ) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แถลง ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ถึงเรื่องแนวทางการดูแลประชาชนในแต่ละจังหวัด

โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยระบุว่า "กระผมปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับผิดชอบดูแลในเชิงพื้นที่ทั่วประเทศ มีประเด็นที่จะรายงานกับพี่น้องประชาชน 3 เรื่อง 1. การเดินทางข้ามเขตจังหวัด 2. พี่น้องประชาชนที่ได้รับการผ่อนผันให้ออกจากจังหวัดภูเก็ต 3. การปฏิบัติงาน กลไกในเชิงพื้นที่ โดยเรื่องแรกการเดินทางข้ามเขตจังหวัด คงทราบกันโดยทั่วไปว่างด หรือ ชะลอ หากท่านใดมีความจำเป็น ก็ต้องมีเหตุผลและหลักฐาน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติการคัดกรองและควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐานในการควบคุมโรค เป็นความร่วมมือของพวกเราทุกคนทั้ง 3 ฝ่าย คือ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่และผ่านการคัดกรอง และพี่น้องประชาชนที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ภูมิลำเนา 3 ส่วนนี้ต้องทำในสิ่งเดียวกันเพื่อป้องกันยับยั้งการระบาด"



ปลัดมท.ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ในประเด็นที่เป็นข่าวและอยู่ในความสนใจของประชาชนจำนวนมาก คือถ้าท่านผ่านแล้วต้องถูกกักตัว 14 วันในเส้นทางผ่านหรือไม่ 2.สงสัยว่าท่านมีความจำเป็นในการเดินทางเพียง 2-3 วัน เช่นไปขึ้นศาลไปทำธุรกรรมหรือไปงานศพหรือความจำเป็นเพียง 2-3 วัน เมื่อไปถึงภูมิลำเนาแล้วท่านจะถูกกัก 14 วันหรือไม่ ผมขอกราบเรียนนะครับในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าใจข้อเท็จจริงชีวิตจริง และปัญหาที่ต้องปฏิบัติร่วมกันทั้ง 3 ภาคส่วนดังกล่าว ผมยืนยันว่าเมื่อมีความจำเป็นต้องอธิบายให้ได้ว่าเหตุผลความจำเป็นคืออะไร และมีหลักฐานประกอบเพียงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าใจถึงเหตุผลความจำเป็นตามข้อกำหนด ซึ่งถือเป็นกฎหมาย และประเด็นที่ถามว่าจะถูกกักระยะที่ผ่าน 14 วันไปตลอดหรือไม่ อันนี้ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือเมื่อมีต้นทางระหว่างทางจะมีด่านตรวจ และจะไปสู่กระบวนการกักตัวเพื่อคัดกรองโรคในปลายทางที่เป็นภูมิลำเนาเป้าหมาย ในส่วนนี้เป็นการปฏิบัติที่เหมือนกันทั่วประเทศ เป็นหลักเกณฑ์ที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ประชุมผู้ว่า นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารท้องถิ่นไปก่อนหน้านี้ ฉะนั้นกระทรวงมหาดไทยจะปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกัน"

"ส่วนความหนักเบาในการปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและสถานการณ์ของพื้นที่ซึ่งเป็นเรื่องรายละเอียดการปฏิบัติ ยืนยันว่าเมื่อท่านเดินทางเช่น ออกจาก กทม.จะไปสุรินทร์ อุบลฯ ผ่านโคราช ท่านไม่ถูกกัก 14 วันที่โคราช และจังหวัดอื่นๆก็เช่นเดียวกัน เว้นแต่ท่านจะพักในโคราชซึ่งถือว่าเป็นการพัก แบบนี้จะเข้ากระบวนการตรวจสอบคัดกรองเพื่อความปลอดภัย ส่วนเมื่อไปอยู่ในพื้นที่ภูมิลำเนาแล้ว ถ้าเหตุความจำเป็นของท่านเพียง 3-4 วัน ไม่ต้องอยู่ 14 วัน ข้อเท็จจริงก็คือจะมีการ home quarantine ในพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาตามวันเวลาที่ท่านอยู่จริง แต่สิ่งที่ต้องปฏิบัติร่วมกันอย่างเคร่งครัดคือ จะมีการบันทึกข้อมูลการ quarantine เมื่อเข้าไปอยู่ในพื้นที่ และจะบันทึกเป็นหลักฐานสืบค้นย้อนหลังได้ในกรณีที่ท่านกลับมาแล้วมีประเด็นที่ไปเกี่ยวข้องกับการระบาดของโรค อันนี้เรียนเพื่อความเข้าใจตรงกันนะครับ"

"ประเด็นที่สอง มีคำถามเข้ามามากว่าทำไมถึงปล่อยคนจากจังหวัดภูเก็ตไปจำนวนมากมาย ผมขอเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตชี้แจงและตรวจสอบข้อมูลจากทั้งตำรวจ ทหาร หน่วยงานต่างๆ ยืนยันว่ามีพี่น้องคนไทยที่ไม่มีภูมิลำเนาในจังหวัดภูเก็ตและไปปฏิบัติงานทำหน้าที่ต่างๆประมาณ 1 แสนกว่าคน ในจำนวนแสนกว่าคนที่อยู่ตามปกติ เมื่อเกิดสถานการณ์และจังหวัดภูเก็ตได้ประกาศห้ามเข้า-ออกตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ในจำนวนนี้มีคน 5 หมื่นคนเศษได้แจ้งความจำนงว่าไม่มีงานทำ อยู่ไปก็ไม่ได้ทำหน้าที่อะไร มีความจำเป็นในเรื่องเศรษฐกิจขอออกจากจังหวัดภูเก็ต แต่ระหว่างนั้นจังหวัดยังไม่อนุญาตให้ออก จนกระทั่งเมื่อสิ้นวันที่ 30 เมษายน ก็ได้มีการทำทะเบียนผู้ประสงค์จะออก ผมเรียนในสาระสำคัญดังนี้นะครับ ทุกคนที่ออกไม่ได้แปลว่าออกได้ทั้งหมด จังหวัดภูเก็ตมี 17 ตำบล ตำบลที่อนุญาตให้ออกเนื่องจากผ่านกระบวนการคัดกรองที่มีมาตรฐาน เป็นที่เชื่อมั่นแล้วเพียง 14 ตำบล ส่วนอีก 3 ตำบลยังไม่ให้ออก และเมื่อออกจะมีหนังสือจากผู้ว่าฯภูเก็ต และทีมงานไม่ว่านายอำเภอ หรือ สธ. รับรองว่าเป็นบุคคลที่ผ่านกระบวนการคัดกรองเกินกว่า 14 วันตามมาตรฐาน และยังได้แจ้งไปยังจังหวัดปลายทางทุกจังหวัด 


วันนี้ได้ตรวจสอบข้อมูลถึง 09.00 น. มีผู้เดินทางออกตามทะเบียน 3,600 คน ใน 3,600 คนจะมีหลักฐานที่ว่านี้ทุกคน ส่วนใหญ่ไป 56 จังหวัด จะอยู่ใน 11 จังหวัดภาคใต้ถึง 2,500 คนหรือประมาณ 70% นอกนั้นกระจายไปจังหวัดละ 1-2 คนทั่วประเทศ 56 จังหวัด ทุกคนผ่านกระบวนการตรวจสอบคัดกรอง และเมื่อไปถึงปลายทางผู้ว่าฯจังหวัดปลายทางจะทราบข้อมูลแล้วว่าจะมีคนมาจากภูเก็ตจำนวนเท่าไหร่ ส่วนด่านระหว่างทางก็จะทราบว่ามีหนังสือรับรองว่านี่คือคนที่มาจากภูเก็ต ที่ผ่านกระบวนการแล้ว ผมเองเรียนชี้แจงเพื่อความสบายใจ และให้มั่นใจว่ากระบวนการของราชการได้คัดกรองในมาตรฐานตามเกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับจึงส่งมา

ประเด็นที่ 3 กลไกในการปฏิบัติในระดับพื้นที่ต่อกรณีที่มีข้อกำหนด และมีผลปฏิบัติในขณะนี้ ขอเรียนว่าทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเดินทางไปจังหวัดใด จะใช้มาตรฐานเดียวกันในการปฏิบัติ จุดประสงค์หลัก 2 เรื่องคือ 1. มาตรการยับยั้งการระบาดของโรค ที่ต้องปฏิบัติร่วมกัน 2. ขอปฏิบัติที่เกี่ยวกับข้อลดหย่อนผ่อนปรนต่างๆ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ต้องมีระยะห่าง สำคัญที่สุดผ่านจุดคัดกรองต้องอธิบายและชี้แจง ส่วนการเดินทางไม่ว่าจะได้รับลดหย่อนผ่อนปรนอย่างไรต้องนึกเสมอว่า 22.00 - 04.00 น.คือเคอร์ฟิว เราไม่ได้มีการยกเว้นในส่วนนี้ นอกเหนือจากที่ภูเก็ตแล้ว ยังมีคนที่ผ่านการ local quarantine ที่มาจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ หรือที่ผ่านจากกระบวนการ state quarantine ต่างๆ จะมีวิธีการส่งกลับ ถ้ามาจากภาคใต้ก็จะมีรถไฟ หรือ รถยนต์จัดส่งให้พี่น้อง เพื่ออำนวยความสะดวกและขอให้มั่นใจว่านี่คือบุคคลที่ได้ผ่านการคัดกรองตามมาตรฐานแล้ว ขอบพระคุณครับ" นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าว






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.