ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายณัตธวุฒิ นิลยกานนท์ อายุ 49 ปี เจ้าของธุรกิจรับแต่งหน้าเจ้าสาว ชื่อคุณตู่ บ้านเจ้าสาว ซึ่งรางวัลแชมป์แต่งหน้าเจ้าสาวแห่งประเทศไทย 2512 “ BY LIFEFORD PARIS ” การันตี เปิดเผยว่า ตนเองทำธุรกิจเกี่ยวกับการแต่งหน้าเจ้าสาวหรือเวดดิ้ง มานานกว่า 20 ปี มีรายได้ต่อเดือนนับแสนบาททำให้ที่ผ่านมา จึงดำรงชีวิตอย่างไม่คิดมาก แบ่งให้ลูกทีม นำไปซื้อเสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าเติมเต็มในร้าน เพื่อเปิดทางเลือกให้กับลูกค้าได้มีโอกาสเลือกชุดที่ชอบ พอใจในชุดที่เหมาะสมกับตัวเอง ส่วนเงินที่เหลือก็ใช้จ่ายกินเที่ยว และเก็บออมในบางส่วน

นายณัตธวุฒิ กล่าวว่า จนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ขึ้น และเดือนเมษายน รัฐบาลได้ออกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีทั้งห้ามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ทำให้ในเดือนที่ผ่านมาลูกค้ามากกว่า 20 งาน ที่ต้องเลื่อนงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งทำให้รายได้ที่ได้ในแต่ละเดือนด้วยเลข 6 หลักต้องหายไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่รัฐบาลมีนโยบายให้ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ซึ่งตนเองได้ปฏิบัติตาม ในเดือนแรกก็คิดว่าได้พักร่าง ได้จัดร้าน ได้ซ่อมชุด

จากที่ผ่านมาตนเองทำงานหนักมาโดยตลอด ต้องตื่นตั้งแต่ตี 1 ตี 2 เพื่อไปแต่งหน้าให้ลูกค้า ไม่มีเวลาพักผ่อน รวมไปถึงไม่ค่อยมีเวลาที่จะเก็บร้าน และปรับปรุงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แต่เมื่อเกิดโรคระบาด มีคำสั่งจากรัฐบาล ให้อยู่บ้าน เพื่อหยุดเชื้อ ตนเองจึงใช้เวลาในช่วงนี้ในการพักผ่อนและปรับปรุงอุปกรณ์ในร้าน แต่พอประกาศต่ออีก 1 เดือน ตนเองเริ่มอยู่ไม่ได้ เงินออมเริ่มร่อยหรอลงไปมาก เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ไม่เกิดอะไรดีขึ้น ทั้งตนเองและลูกน้องก็นั่งๆ นอนๆ เล่นโทรศัพท์กันคนละมุมจึงได้คิดว่าต้องปรับตัวใหม่ ด้วยตนเองมีพื้นฐานในการทำอาหารการกินเป็น และอาศัยประสบการณ์ในการเดินทางไป แต่งหน้าไปงานตามที่ต่างๆ จังหวัดต่างๆ ได้ชิมและเรียนรู้การทำอาหารหลายๆ ที่ จึงคิดที่จะทำอาหารขาย โดยนำเงิน 5 พันบาทที่รัฐบาลช่วยเหลือมาเป็นเงินทุนในการทำอาหารขาย

โดยเมนูที่ทางร้านทำและลูกค้าสั่งซ้ำแล้วซ้ำอีกคือเมนู ปลาทูต้มหวาน ที่คัดสรรวัตถุดิบที่ดีและมีคุณภาพ คือต้องเป็นปลาทู บ้านปากหาด ตำบลนาทุ่ง จังหวัดชุมพร เท่านั้น เพราะปลาทูที่นี้ เป็นประมงพื้นบ้าน ที่ชาวประมงจะออกไปวางอวนในช่วงเย็น ห่างจากฝั่งไม่มากนัก แล้วจะออกไปกู้อวนกลับเข้าฝั่งในช่วงเช้า จึงทำให้ปลาทูที่นี้สด ไม่เหมือนกับเรือประมงขนาดใหญ่ ออกทำประมงน้ำลึก กว่าจะเข้าฝั่งปลาที่ได้จะต้องที่ต้องแช่ยาหรือดองน้ำแข็งไว้ ปลาทูปากหาด นอกจากจะสดแล้ว เนื้อก็จะหวานอร่อย

นายณัตธวุฒิ กล่าวว่า สำหรับสูตรปลาทูที่นำมาต้มหวาน เป็นสูตรพื้นบ้านของภาคใต้ คือ ใช้สับปะรดมาเป็นส่วนประกอบด้วย คือ ปลอกเอาเปลือกไว้รองก้นหม้อ เพื่อไม่ให้ปลาติดก้นหม้อ แล้วนำปลาทู ที่ทำความสะอาดแล้ว มาวางเรียง เป็นชั้นๆ และแต่ละชั้น ก็จะวางเนื้อสับปะรด ที่หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ วางสลับคู่ไปกับหมูสามชั้น ที่หั่นเท่าๆ กับสับปะรด ใส่น้ำลงไปให้ท่วมปลาทูแล้วนำมาตั้งไฟ ใส่น้ำตาลปีบ เติมเกลือเล็กน้อย ตั้งไฟจนเดือดเต็มที่ แล้วค่อยเบาไฟ เพื่อเคี้ยวน้ำให้งวดแต่ไม่ถึงกับแห้ง แล้วนำมาวางทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนจะนำไปตั้งไฟอีกครั้ง ครั้งนี้จะใช้ไฟอ่อนๆเหมือนอุ่น ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะได้ปลาทูต้มหวาน ที่แสนอร่อย เนื้อหวานที่กลมกล่อมที่ลงตัวของเนื้อปลาทูสด น้ำตาลหวาน สับปะรดอมเปรี้ยว สามารถทานได้แม้แต่ก้างที่นิ่ม เนื้อหมูสามชั้นที่นุ่ม และรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวของเนื้อสับปะรด นี้คือเคล็ดลับที่ทำให้รสชาติของปลาทูต้มหวานของทางร้านมีรสชาติที่ไม่เหมือนที่อื่น

คุณณัตธวุฒิ กล่าวต่อว่า ในการทำปลาทูต้มหวานของทางร้านนั้นจะทำครั้งละจะทำไม่มาก โดยจะเปิดรับออเดอร์เพียงวันละ 20 ชุดเท่านั้น และจะขายกล่องละ 80 บาท ในกล่องจะมีปลาทู 2 ตัว และหมูสามชั้นอีก 2 ชิ้น เนื้อสับปะรดอีก 1 ชิ้น ปัจจุบันลูกค้าที่สั่งปลาทูต้มหวานของที่นี้ต้องส่งจองกันล่วงหน้า เพราะในแต่ละครั้งที่เปิดรับออเดอร์ เพียง 15 นาทีก็มีลูกค้าสั่งจนเต็ม

นอกเหนือจากปลาทูต้มหวานสูตรลับเฉพาะของทางร้านแล้ว ยังมีกระหรี่ปั๊บชิ้นโตๆทานคู่กับน้ำอาจาดที่รสชาติอร่อยลงตัว เป็นของทานเล่นที่รสชาติไม่ได้เล่นๆ เข้มข้นถึงเครื่องถึงรสจำหน่ายในราคากล่องละ 50 บาท พร้อมกับของหวานทับทิมกรอบหอบกระทิอบควันเทียน จากเพื่อนที่ในทีมงานเวดดิ้งที่งานถูกเลื่อนไม่มีงานทำ มารวมตัวกันทำอาหารส่งขายตามออเดอร์ เพื่อให้ตัวเองมีรายได้ในช่วงที่ไม่มีงานทำ

คุณณัตธวุฒิ ยังกล่าวว่า ตอนนี้หลายๆ คนก็ได้รับผลกระทบจากโรคโควิดกันทั้งนั้น ตนเองมองว่าการขายของกินเป็นทางออกอีกทางที่ทำให้ตนเองลูกน้องรวมไปถึง เพื่อนๆ ในทีมงานรอดพ้นจากวิกฤติจากโรคโควิดครั้งนี้ได้ ตนเองมองว่าสิ่งร้ายๆ ที่มาจากโรคร้ายครั้งนี้ มันก็มีบทเรียน ให้เราได้เก็บมาคิดและปรับปรุงตัวเองได้มากขึ้น การใช้เงินแบบสุรุ่ยสุร่ายได้มาง่ายๆ ก็ใช้ไปง่ายๆ ไม่เสียหายเงินทอง แต่มาในวันนี้ที่ต้องทำอาหารขายกำไรกล่องละ10 บาท 15 บาท กว่าจะได้เงินมาแต่ละวันแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเราใช้ชีวิตอยู่บนความพอเพียงก็จะทำให้ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้