รวบแล้วอีก "2 หัวโจก" แก๊งทวงหนี้ ค่ายาบ้ายิงหนุ่มสวนยาง 2 ศพ
3 พ.ค. 2563, 17:30
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีวันนี้ 3 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เวลา 11.00 น.พล.ต.ต.พลัฏ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ รอง ผบก.พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รอง ผบก.พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย รอง ผบก.พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.อ.ยรรยงค์ แสงฮาด รอง ผอ.รมน.บึงกาฬ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.เสกสรร บาอุ้ย สวป.พ.ต.ท.ฉายยนต์ ชาวดอน รอง ผกก.(สอบสวน) พร้อมด้วยชุดจับกุม แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมที่หลบหนี 2 คน ในจำนวนผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน โดยจับกุมเยาวชนอายุ 15-17 ปี ได้ก่อน 3 คน ฝากขังที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบึงกาฬ ในคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญยิงทิ้ง 2 หนุ่ม บาดเจ็บอีก 1 ในสวนยางพารา หลังก่อเหตุได้ขโมยเอารถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปด้วย 1 คัน และมือถือ 2 เครื่อง ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
พล.ต.ต.พลัฏ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้แถลงว่าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมบูรณาการควบคุมตัว นายธราเทพ หรือ แบงค์ ลำยาว อายุ18 ปี และนายรัชชานนท์หรือนนท์ใหญ่ พรมกุดตุ้ม อายุ18 ปี 2 ผู้ต้องหา ที่เป็นตัวการสำคัญในคดีฆาตกรรม 2 หนุ่มสวนยางและบาดเจ็บ 1 เหตุเกิดในสวนยางพาราบ้านเหล่าถาวร หมู่ 6 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ สาเหตุเกิดจากไปทวงถามหนี้ค้างค่ายาบ้าที่รับไปจำหน่ายต่อจำนวนเงินกว่า 1 แสนบาทได้มาเพียง 8,000 บาท หลังก่อเหตุยิงทิ้งหนุ่มสวนยางเสร็จ ได้นำอาวุธปืนของกลางคือ เป็นปืนออโตเมติก .380 1 กระบอก ปืนลูกโม่ขนาก .38 เป็นปืนบีบีกันดัดแปลง 1 กระบอก พร้อมซองปืนไปซ่อนไว้ที่หลังคาบ้านเลขที่ 37 หมู่ที่ 6 บ้าน หนองบัวเงิน ตำบลนาสะแบง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ของภรรยา นายพรประเสริฐหรือกานต์ สุขแจ่ม 1 ใน 5 ผู้ต้องหา และเป็น 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่จับตัวได้ก่อนหน้านี้ นำโทรศัพท์ของผู้ตาย 2 เครื่องไปทุบทิ้งทำลาย ส่วนรถจักรยานยนต์นำไปซ่อนเพื่อขายใช้หนี้ส่วนที่เหลือ จากนั้นก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1กพ 4051 สกลนคร หลบหนีไปตามถนนมิตรภาพมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยเปลี่ยนกันขับขี่เหนื่อยก็หยุดพักนอนค้างคืนตามป่าข้างทาง โดยมีญาติติดต่อประสานให้เข้ามอบตัวและก็มีเพื่อนได้ส่งคลิปข่าวที่เสนอตามสื่อให้ได้ทราบตลอดเวลา จนขี่รถไปถึงจังหวัดปทุมธานีไม่รู้จะไปไหนต่ออย่างไร ประกอบกับกลัวความผิดหากถูกจับได้เสียก่อน และคิดว่าหนีต่อไปคงไม่รอดแน่ จึงได้ตัดสินใจขี่รถกลับจากจังหวัดปทุมธานีกลับมาถึงบ้านป่าแฝก อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ค่ำพอดี ให้ผู้ปกครองติดต่อตำรวจขอเข้ามอบตัว ถูกแจ้งข้อหนัก 6 ข้อหาเช่นเดียวกับ 3 คน ถูกจับได้ก่อนหน้านี้คือ 1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2. ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 3. ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ 4. ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว 5. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 6. ร่วมกันพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร
นายธราเทพ หรือ แบงค์ ลำยาว อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาและเป็นหัวโจกได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองเป็นคนไม่ดื่มสุรา ไม่เสพยาบ้าหรือบุหรี่ แต่ที่มาเกี่ยวข้องในครั้งนี้ เนื่องจากว่าตัวเองไม่มีงานทำ และก็เป็นคนจริงใจคนหนึ่ง ได้รู้จักโดยบังเอิญกับ นายหนูนา คุณธรรม ซึ่งปัจจุบันได้เป็นนักโทษชายอยู่ที่เรือนจำ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ได้เขียนจดหมายมาบอกว่า ให้ไปทวงถามหนี้ค่ายาบ้ากับกลุ่มผู้ตายให้ด้วย ครั้งแรกนั้นไม่ได้คิดว่าจะลงมือให้ถึงตาย ตั้งใจเพียงว่าข่มขู่ให้กลัว แต่มันเกิดเลยเถิดเพราะผู้ตายเองก็พูดจายั่วยุทำให้เกิดความโมโห ทั้งๆ ที่ตนเป็นคนใจเย็น และไม่คิดว่าจะทำร้ายร่างกายถึงขนาดให้เสียชีวิต จังหวะที่นั่งต่อรองกันอยู่ที่สวนยางพาราใช้เวลาประมาณ 30 นาที กลุ่มตายได้พูดจา ต่อว่าเกิดความโมโหขึ้นมาเพียงแว๊บเดียวเท่านั้นที่ตัดสินใจชักปืนออกมายิงทั้ง 3 คน จนเสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 1 โดยยิงนายอุดม หรือเตื่อย โพธิ์ศรี อายุ 29 ปี 1 นัดจากนั้นจึงหันปากกระบอกปืนไปยิงนายศักดาหรืออ้น เขาภูเขียว อายุ 33 ปี 3 นัด และไล่ยิง นายชุติพงษ์ หรือทัศน์ เสาะสมบูรณ์ อายุ 29 ปี อีก 2 นัด ที่ออกตัววิ่งหนี ก็ได้สำนึกผิดเกรงกลัวต่อบาปกรรมและยอมรับผิดในสิ่งที่พวกตนได้กระทำลงไป จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวดังกล่าว