"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ลงพื้นที่เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อน - บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ บนเกาะสุกร
5 ก.ค. 2562, 14:41
(5 ก.ค. 62) นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พันตำรวจเอก วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายประทีป เจริญพร ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายกีรป กฤตธีรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการที่ดินรัฐ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดตรัง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขาย่านตาขาว ปลัดอำเภอปะเหลียน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกร ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการออกโฉนดที่ดินทับคลองสาธารณประโยชน์ และกรณีการแก้ไขปัญหาการบุกรุกคลองสาธารณประโยชน์ (คลองเปลวโต๊ะบู) ล่าช้า ณ ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เร่งแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินทับซ้อน รวมถึงการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วต่อไป
นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาจากการร้องเรียนเกี่ยวกับการถือครองที่ดินในพื้นที่ตำบลเกาะสุกร ที่มีการออกโฉนดทับซ้อนที่ดินสาธารณะ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแจ้งว่า บริเวณที่เป็นปัญหานั้น เดิมเป็นคลองสาธารณประโยชน์ขนาดใหญ่ กว้างกว่า 10 เมตร ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 3 ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน เคยใช้เป็นเส้นทางสัญจรและเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร แต่ต่อมามีผู้ประกอบการเอกชนเข้ามาอ้างสิทธิถือครองที่ดิน และมีการกั้นเขตรั้วและทำการถมดินทับคลองสาธารณประโยชน์ดังกล่าว ทำให้ชุมชนใกล้เคียงได้รับผลกระทบ
เบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกร ซึ่งเป็นผู้ดูแลที่ดินสาธารณประโยชน์ในพื้นที่รายงานถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าวว่า สำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขาย่านตาขาว ได้ดำเนินการรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าวตามเอกสารสิทธิที่ดินที่มีการครอบครองแล้ว โดยมีผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกร และผู้แทนนายอำเภอปะเหลียน เป็นผู้ชี้แนวเขตที่ดินร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขาย่านตาขาว แต่ยังไม่ปรากฏเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวมาร่วมชี้แนวเขตที่ดินแต่อย่างใด ซึ่งล่าสุดสำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขาย่านตาขาว ได้ส่งผลการรังวัดเบื้องต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบแล้ว จึงได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา และลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงรวมถึงรับฟังสภาพปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากเป็นปัญหาเรื้อรังและยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมและอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นรายได้หลักของประชาชนบนเกาะสุกร
ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เล็งเห็นความสำคัญของผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่และวิถีชีวิตชุมชน เนื่องจากที่สาธารณประโยชน์คือ สมบัติของแผ่นดินทุกคนมีสิทธิใช้ร่วมกัน จะมีผู้หนึ่งผู้ใดยึดและครอบครองไม่ได้ ดังนั้น หากเกิดข้อผิดพลาดทุกหน่วยงานต้องเร่งแก้ไขปัญหา แสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกันอย่างจริงจัง ซึ่งมติในที่ประชุมระบุว่า จากหลักฐานบุคคลและเอกสาร เชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นคลองสาธารณะ จึงได้มอบหมายให้อำเภอปะเหลียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหารือร่วมกับเจ้าของที่ดินปัญหา และผู้ร้องเรียน หาทางประนีประนอมแก้ไขปัญหาแนวเขตดังกล่าวได้ โดยให้ที่ดินดำเนินการและรายงานให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบภายใน 30 วัน แต่หากประนีประนอมไม่ได้ ให้จังหวัดสั่งการตามขั้นตอน และให้นำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จังหวัดตรังโดยเร็ว เพื่อคลี่คลายปัญหาและสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย