โจรใจบาป! ทุบตู้บริจาควัดรองเจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ กวาดเงินไปร่วม 10,000 บาท
6 พ.ค. 2563, 08:49
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวONB newsรายงานว่า นี่คือภาพเหตุการณ์ที่คนร้ายได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาที่กุฎิของพระครูสิริปริยัติการ เจ้าอาวาสวัดเพียนาม ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และรองเจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้ามาภายในกุฎิ โดยทำเป็นเดินวนเวียนภายในกุฎิ จากนั้นได้เดินเข้ามาอุ้มเอาตู้บริจาคที่มีเงินและซองปัจจัยที่มีญาติโยมนำเอามาถวายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟของวัด จำนวนประมาณ 10,000 บาท แล้วนำเอาตู้เดินเข้าไปในห้องด้านข้าง แล้วได้ทำการทุบด้านล่างของตู้บริจาคที่ทำด้วยไม้อัดจนพังเป็นรูกว้าง แล้วได้นำเอาเงินบริจาคทั้งหมดขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรออยู่หลบหนีไป ต่อมา พ.ต.ท.ยุทธนา ดวงกล้า สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัด จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เบื้องต้น ซึ่ง พระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันนี้ได้นำคณะสงฆ์ไปประกอบพิธีสวดมนต์เย็นที่บ้านเพียนาม ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กม.เมื่อเสร็จพิธีทางศาสนาแล้วได้กลับมาที่กุฎิ และพบว่าตู้บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟของวัดที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชาได้หายไป ดังนั้นจึงได้ให้พระลูกวัดเปิดดูกล้องวงจรปิด พบว่าตู้บริจาคถูกคนร้ายลักเอาไป
พระครูสิริปริยัติการ เปิดเผยต่อไปว่า จากการตรวจสอบด้วยกล้องวงจรปิดแล้ว พระเณรภายในวัดยืนยันว่าคนร้ายตามภาพในกล้องวงจรปิดชื่อนายเจี๊ยบ บ้านอยู่ที่บ้านกระต่ำ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โดยนายเจี๊ยบจะเข้ามาที่วัด เพื่อมาขอเงินกับอาตมาภาพและพระในวัดเป็นประจำครั้งละประมาณ 100 บาท อ้างว่าจะนำเอาเงินไปซื้อข้าวกิน เพราะว่าตกงาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 อาตมาภาพและพระในวัดจึงได้เมตตาให้เงินไปกินข้าว หลังจากนั้นนายเจี๊ยบได้หายไปหลายวัน และในวันนี้ได้ย้อนกลับมาที่วัดก่อเหตุทุบตู้รับบริจาคเงินลักเอาเงินไป เหลือเพียงเศษเงินใบละ 20 บาท 1 ใบ และเศษเหรียญบาทอีกประมาณ 5 - 6 เหรียญเท่านั้น
ทางด้าน พ.ต.ท.ยุทธนา ดวงกล้า สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้รายงานให้ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับทราบแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวคนร้ายตามภาพในกล้องวงจรปิด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป