"กรมส่งเสริมการเกษตร" แนะเกษตรกรขึ้นทะเบียนฯ ตรวจสอบรายชื่อที่ติดประกาศภายในชุมชน ตามที่ตั้งแปลงปลูก ภายในวันที่ 10 พ.ค.63
6 พ.ค. 2563, 11:53
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติในการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเป็น 3 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2562 และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2563 แล้ว 6.3 ล้านครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2563) ขอให้ไปตรวจสอบรายชื่อที่ติดประกาศภายในชุมชน (ตามที่ตั้งแปลงปลูก) ภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 หากมีรายชื่ออยู่ในกลุ่มนี้ ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ อีก โดยจะเป็นรายชื่อเกษตรกรชุดแรกที่จะส่งไปให้กระทรวงการคลังคัดกรองเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกร จากนั้นขอให้รอผลคัดกรองตรวจสอบสิทธิในการเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารเท่านั้น
กลุ่มที่ 2 เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ก่อนปี 2562 และยังทำการเกษตรอยู่ 1.7 ล้านครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2563) ขอให้ไปตรวจสอบรายชื่อที่ติดประกาศภายในชุมชน (ตามที่ตั้งแปลงปลูก) หากพบว่ามีชื่ออยู่ในกลุ่มนี้ ขอให้ไปปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม
กลุ่มที่ 3 เกษตรกรรายใหม่ซึ่งยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร หลังจากที่ปลูกพืชแล้ว 15 วัน ให้มาติดต่อขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก ภายในวันที่ 15 พฤษภาคมเช่นกัน โดยรายชื่อเกษตรกรกลุ่มที่ 2 และ 3 จะเป็นชุดที่ 2 ซึ่งจะส่งให้กระทรวงการคลังคัดกรองเพื่อไม่ให้ซ้ำกับโครงการเราไม่ทิ้งกัน เพื่อรับเงินช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. ต่อไปโดยเร็วที่สุด
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า สำหรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่ ภายหลังจากเกษตรกรทำการปลูกพืชแล้ว 15 วัน และมาขอขึ้นทะเบียนเกษตรกร ตามหลักเกณฑ์ของการขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยกรอกแบบฟอร์ม
ทบก.01 พร้อมแนบหลักฐานที่กำหนด ส่งให้ผู้นำชุมชน หรือ อกม. รวบรวมส่งสำนักงานเกษตรอำเภอแล้ว เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรจะดำเนินการบันทึกข้อมูล
ตรวจสอบข้อมูล ติดประกาศในชุมชน 3 วัน หรือตรวจสอบพื้นที่จริง หรือจัดทำผังแปลงเกษตรกรรมดิจิทัลต่อไป ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย สามารถโทรสอบถามได้ก่อน ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูกเพื่อเลี่ยงการเดินทาง เป็นการลดความเสี่ยงในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19