วันนี้ ( 7 พ.ค.63 ) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันมีความจำเป็นที่จะต้องคงประกาศเคอร์ฟิวอยู่ เพราะถือเป็นมาตรการหลักภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ทั้งนี้การจะผ่อนปรน หรือจะขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ อยู่ที่ข้อเสนอของคณะแพทย์เป็นหลัก

ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าการที่รัฐบาลได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือว่าช่วงนี้ทุกคนต้องเข้ามาช่วยเหลือกัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำอย่างมาก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการที่ทุกคนต้องมาช่วยกันประคองเศรษฐกิจในประเทศให้สามารถขับเคลื่อนได้ โดยเฉพาะการจ้างงาน ให้คนมีงานทำจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ส่วนการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยอาจจะตกต่ำนานถึง 9 เดือนนั้น เห็นว่า ไทยควรเตรียมแผนการรองรับไว้

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงมาตรการผ่อนปรนด้านเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ทั้งที่ยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ จะส่งผลกระทบถึงการดำเนินธุรกิจของไทยหรือไม่ว่า อย่างน้อยที่สุดไทยควรจะฟื้นตัวให้ได้ก่อน และรัฐบาลมีนโยบายมุ่งดูแลสถานการณ์ภายในประเทศก่อน