วันนี้ (8 พ.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีผู้ต้องขังหลบหนีจากเรือนจำ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร จำนวน 5 ราย คือ 1.นายสุริยันต์ สุพรรณ์ประเสริฐ อายุ 33 ปี 2. นายวัฒนชัย พันภักดี อายุ 40 ปี 3. นายภานุพงษ์ โคตรชมภู อายุ 23 ปี 4. นายพัฒพงษ์ เกษ์คำใส อายุ 32 ปี  และ 5. นายอนนท์ หลักคำ อายุ 42 ปี ซึ่งเมื่อวันที่ 1 พ.ค.63 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 4 ราย ยังเหลืออีก 1 ราย คือ นายอนนท์ หลักคำ ซึ่งเป็นตัวการในการวางแผนพาเพื่อนๆ หลบหนี และขณะนี้ยังหลบหนีโดยคาดว่าได้รับการช่วยเหลือจากแก๊งยาบ้าด้วยกันมีคนคอยส่งข้าวส่งน้ำและมีแผนเตรียมหนีออกประเทศเพื่อนบ้าน

และตลอด 8 วันที่หลบหนีขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกองสืบสวนภาค 4 ชุดสืบสวนภูธร จ.สกลนคร ชุดสืบสวนภูธร จ.อุดรธานี และกำลังเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ได้ออกติดตามนักโทษรายนี้โดยพบเบาะแสยังหลบหนีในพื้นที่บ้านสร้อยพร้าว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แต่ขณะนี้ยังไร้วี่แววของ นายอนนท์ ยังไม่สามารถจับกุมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (8 พ.ค.63) พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.นวกิจ นวการพานิช ผกก.สภ.บ้านม่วง จ.สกลนคร นำ ตร.ชุดสืบสวนภาค 4 ชุดสืบสวนภูธร จ.สกลนคร ตร.ชุดสอบสวน สภ.บ้านม่วง และเจ้าหน้าที่จากเรือนจำสว่างแดนดินกว่า 50 นาย ได้ผนึกกำลังออกค้นหา นายอนนท์ หลักคำ นักโทษหลบหนีจากเรือนจำ และใช้เฮลิคอปเตอร์ออกปฏิบัติการบินไล่ล่าทางอากาศขึ้นบิน 2 รอบ เพื่อกดดันอีกครั้ง บริเวณป่าดงนักเลง สำนักสงฆ์ดงเหวหลาว ซึ่งพื้นที่ป่ารกทึบเป็นร้อยๆ ไร่ รอยต่อ 6 หมู่บ้านคือ บ้านสร้อยพร้าว, บ้านหงษาวดี, บ้านวังฮาง, บ้านนาเยีย, บ้านโคกสะอาด และบ้านดอนกลอย อ.พิบูลย์รักษ์ โดย ตร.ที่ไล่ล่านักโทษรายนี้พบหลักฐานสำคัญเป็นรอยเท้าคาดว่าเป็นนักโทษยังอยู่บริเวณป่าดงนักเลงแห่งนี้ และเชื่อว่านักโทษรายนี้ยังซ่อนตัวกับพี่ชายชื่อ พล ที่พาหลบหนีอยู่