จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ออกมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้ประชาชนช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมผู้ใช้ไฟ 22 ล้านราย แบ่งเป็น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 18.5 ล้านราย และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 3.5 ล้านราย ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค.นี้

โดยกำหนดเงื่อนไขที่จะนำปริมาณการใช้ไฟฟ้าของเดือน ก.พ.2563 เป็นเดือนฐาน คือ

1. หากใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ให้จ่ายเท่าหน่วยตามการใช้จริง

2. หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 800 หน่วย ให้จ่ายเท่าหน่วยที่ใช้ของเดือน ก.พ.

3. หากใช้ไฟฟ้าเกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายเท่ากับหน่วยที่ใช้ของเดือน ก.พ.+50% ของหน่วยส่วนเกินจากเดือน ก.พ.

4. หากใช้ไฟฟ้าเกิน 3,000 หน่วย จ่ายเท่าหน่วยที่ใช้ของเดือน ก.พ. +70% ของหน่วยส่วนเกินจากเดือน ก.พ.

อย่างไรก็ตาม กฟภ. และ กฟน. ได้ชี้แจงเพิ่มเติม ประเด็นการจ่ายค่าไฟฟ้า ว่าหากได้รับบิลแจ้งค่าไฟฟ้าเดือน เม.ย. แล้วจะต้องจ่ายในราคาใด เพราะบิลที่แจ้งยังเป็นการคิดค่าไฟฟ้าปกติ จะมีเพียงส่วนลด 3% ตามมติ ครม.ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีส่วนลดตามมติ ครม.วันที่ 21 เม.ย. แต่อย่างใด

ซึ่ง นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน โฆษกการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า วิธีการชำระเงิน ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.เป็นต้นไป ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถนำใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดิมที่ยังไม่ได้ระบุส่วนลดการใช้ไฟฟ้าตามมาตรการรัฐ ไปชำระค่าไฟฟ้าก็จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดโดยอัตโนมัติ

ส่วนกรณีชำระค่าไฟฟ้าไปแล้ว โดยหักผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต โดยที่ยังไม่ได้สิทธิ์ส่วนลด ทาง กฟน. จะคืนเงินส่วนลดให้ในเดือน มิ.ย. เป็นต้นไป

ด้าน นายวิโรจน์ บัวคลี่ โฆษกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า กฟภ. ได้ปรับระบบใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าใหม่ที่จะมีสิทธิ์ส่วนลดให้ทันที เพราะการทำระบบใหม่รองรับเรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.นี้

ดังนั้น ประชาชนที่ยังไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้า หากไปจ่ายตั้งแต่ วันที่ 8 พ.ค. เป็นต้นไป จะได้ส่วนลดค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติทันที

ส่วนใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าเดือน มี.ค.-เม.ย.ที่ประชาชนได้ชำระค่าไฟฟ้าดังกล่าวไปแล้วแต่ยังไม่ได้สิทธิ์ส่วนลดนั้น กฟภ.จะคืนค่าไฟฟ้าให้ โดยหักคืนเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าในเดือน มิ.ย.เป็นต้นไปจนกว่าจะครบตามยอดเงินที่ได้ชำระแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้าของเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ถ้าไปชำระตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.เป็นต้นไป ในระบบจะคำนวณส่วนลดให้ทันที แม้จะไม่ได้ปรากฏในใบแจ้งหนี้ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงาน กฟภ. หรือ ที่ร้านสะดวกซื้อ จึงไม่ต้องจ่ายเงินเต็มตามใบแจ้งหนี้

ส่วนผู้ที่ชำระค่าไฟฟ้าผ่านบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต กรณีนี้ได้ให้ธนาคารชะลอการหักเงินไว้ก่อน และจะเริ่มหักชำระได้ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ด้วยยอดเงินที่ปรับปรุงโดยมีส่วนลดแล้ว นอกจากนี้ กฟภ. ให้สามารถค้างชำระค่าไฟฟ้าได้โดยไม่ตัดไฟช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จนกว่าการแพร่ระบาดจะจบลง.

 

ขั้นตอนง่าย เพื่อตรวจสอบยอดค่าไฟใหม่ เพียงแค่สแกน  QR Code

 

 

กดยอมรับ