วันที่ 12 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ฐานปฏิบัติการชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 อ.เบตง จ.ยะลาด.ต.สุรศักดิ์ สาสุก รอง รรท.ฐาน ชฝต.4405 (ฐานชุดเฝ้าตรวจชายแดน4405) ได้เรียกกำลังพลรวมพลเพื่อออกลาดตระเวนตรวจสอบแนวชายแดนบริเวณจุดผ่านแดนไทย-มาเลเซีย บริเวณหลักเขตแดนที่ 51/59 บ้านซาโห่ หมู่ 2 ต.เบตง อ.เบตงจ.ยะลา โดยได้ลาดตระเวนตามช่องทางธรรมชาติภายหลังจาก นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ประกาศขยายคำสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายแบบมีเงื่อนไข ออกไปอีก 4 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 9 มิ.ย. นี้ เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนจากเดิมที่มีกำหนดบังคับใช้ถึงวันที่ 12 พ.ค.นี้  ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงการห้ามการชุมนุมของคนจำนวนมาก และห้ามการเดินทางข้ามรัฐที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ซึ่งส่งผลให้การเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อร่วมการเฉลิมฉลองหลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอน หรือ อีฎิ้ลฟิตริ ทำไม่ได้

จากกรณีดังกล่าว พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ได้มีการประชุมหารือถึงมาตรการป้องกันการลักลอบ ข้ามแดนมาจากประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ โดยได้บูรณา การกำลังทหาร ชุดป้องกันชายแดนที่ 4 ตำรวจภูธร ตชด.445 ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยใช้มาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะในการเข้า-ออกพรมแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการแฝงตัวเข้ามาโดยไม่ผ่านการคัดกรองโควิด-19 ที่ไม่อนุญาตให้ข้ามแดน และไม่มีหนังสือรับรองจากการลงทะเบียนออนไลน์จากสถานกงสุลไทยในมาเลเซีย ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

แรงงานไทยที่เดินทางกลับมาผ่านพรมแดนเบตงวันนี้ (12 พ.ค. 63) ยอดแจ้งเดินทางกลับจำนวน 50 คน เดินทางเข้ามาแล้วในช่วงเช้าจำนวน 27 คน และจากการสอบถามแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาในวันนี้ทราบว่า ได้เข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่เริ่มการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้การเป็นอยู่มีความลำบาก เนื่องจากทางมาเลเซียปิดประเทศ ไม่มีงานทำ และขาดรายได้ ตนจึงตัดสินใจลงทะเบียนออนไลน์จากสถานกงสุลไทยในมาเลเซียและได้เดินทางกลับมาในวันนี้ ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ส่งไปกักตัว 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ โดยในช่วงนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนชายแดนไทย-มาเลเซีย เนื่องจากใกล้สิ้นสุดการถือศีลอด และเข้าสู่ช่วงเทศกาลฮารีรายอ อาจจะมีแรงงานไทยลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ด้าน ด.ต.สุรศักดิ์ สาสุก  รอง รรท.ฐาน ชฝต.4405 (ฐานชุดเฝ้าตรวจชายแดน4405) กล่าวว่า ภายหลังได้มีประกาศขยายคำสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายแบบมีเงื่อนไข ออกไปอีก 4 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ของทางการมาเลเซียนั้น ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 และ 4406 ทำหน้าที่ลาดตระเวนทั้งกลางวันและกลางคืน อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกัน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ใช้หลักมนุษยธรรม และต้องเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคแห่งรัฐในการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันตนเองและสังคมโดยรวมให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรค COVID -19 โดยคนไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซีย จะอนุญาตให้เดินทางผ่านข้ามแดนเพียงวันละ 50 คน และต้องมีหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ พร้อมใบรับรองแพทย์ ด้วยเพียงเท่านี้ก็สามารถผ่านแดนกลับภูมิลำเนาของตนเองได้แล้วโดยไม่ต้องลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติให้ถูกจับกุมเพราะทุกด่านชายแดนได้มีมาตรการเข้มงวดทุกช่องทางโดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ