เปิดคลิป "ตำรวจ" สนธิกำลัง บุกโรงแรมจับคู่รักแอบผลิตและจำหน่ายน้ำมันกัญชารายใหญ่
6 ก.ค. 2562, 14:36
ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 นายสุพงษวิณัย ชูยก นายอำเภอท่าศาลา ได้สั่งการให้ นายพันธกานต์ รัชณรงค์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง (งานป้องกัน)อำเภอท่าศาลา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ อส.ชุดปราบปรามยาเสพติด ฉก.ศรีวิชัย อ.ท่าศาลา สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 8 ตำรวจชุดสอบสวน สภ.ท่าศาลา และทหารค่ายฝึกรบพิเศษสิชล จู่โจมเขาตรวจค้นและจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 302 โรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่สามแยกลิโพ หมู่ 13 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จับกุมผู้ต้องหาลักลอบผลิตและจำหน่ายน้ำมันกัญชารายใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ได้พร้อมของกลางหลายสิบรายการมูลค่าหลายแสนบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีการประกาศขายน้ำมันกัญชาทางโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง ซึ่งเชื่อว่าเป็นน้ำมันกัญชาที่มีการลักลอบผลิตขึ้นโดยผิดกฎหมาย อาจเป็นอันตรายสำหรับประชาชนที่หลงเชื่อสั่งซื้อทางออนไลน์ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงเชิญนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายสมพงษ์ มากมณี ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมหารือและสั่งการให้มีการสืบสวนติดตามแหล่งผลิตและจำหน่าย ซึ่งจากการสืบสวนและจับกุมผู้เสพหลายรายทราบว่าส่งซื้อทางออนไลน์ และมีการส่งสินค้าให้ผู้ซื้อผ่านทางบริษัทขนส่งชื่อดัง โดยทราบชื่อผู้จัดส่งคือนายภูวดล สิทธิรักษ์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 240/10 หมู่ 1 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการ จึงสั่งการให้ นายสุพงษวิณัย ชูยก นายอำเภอท่าศาลา จัดกำลังฝ่ายปกครองออกสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม และวางแผนจับกุมเครือขายผู้ผลิตและจำหน่ายรายนี้ต่อไป
โดยนายพันธกานต์ รัชณรงค์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง (งานป้องกัน)อำเภอท่าศาลา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ อส.ชุดปราบปรามยาเสพติด ฉก.ศรีวิชัย อ.ท่าศาลา และทหารค่ายฝึกรบพิเศษสิชล ลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแสของนายภูวดล จนทราบว่านายภูวดล เช่าห้องพักเลขที่ 302 โรงแรม แห่งหนึ่งตั้งอยู่สามแยกลิโพ หมู่ 13 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยมาพักอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่งและในแต่ละวันนายภูวดล พร้อมด้วยหญิงสาว 1 คนจะนำกล่องพัสดุไปส่งที่บริษัทขนส่งเป็นจำนวนมาก และยังซื้อกล่องพัสดุ เทปกาว พลาสติกกันกระแทกจากบริษัทขนส่งกลับมาที่ห้องพักจำนวนมากอีกด้วย จึงแน่ใจว่านายภูวดล จะต้องแอบผลิตน้ำมันกัญชาจากในห้องพักโรงแรมที่ตัวเองมาเช่า
หลังได้ข้อมูลเบาะแสแน่ชัดแล้วนายพันธกานต์ รัชณรงค์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ ปปส. เจ้หน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ผ่านทหารค่ายฝึกรบพิเศษสิชล สนธิกำลังเข้าตรวจสอบห้องพัก 302 เมื่อเจ้าหน้าที่เคาะประตูปรากฏว่านายภูวดล เปิดประตูออกมาเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับตกใจหน้าซีด เจ้าหน้าที่ได้แสดงบัตร ปปส.ขอเข้าตรวจค้นในห้องพัก ซึ่งพบ น.ส.ปาริชาติ พรหมเดช อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ 2 ต.ขอนหาด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในห้อง จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบของกลางจำนวนมาก อาทิ เครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตสารสกัดกัญชา กัญชาอัดแท่ง กัญชาผง กัญชาชนิดแคปซูล สารตั้งต้น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และน้ำมันกัญชาที่สกัดเสร็จเรียบร้อยแล้วบรรจุขวดขนาดเล็กจำนวนมาก อุปกรณ์การเสพ (หยอด) อุปกรณ์การจัดจำหน่ายทั้งกล่องพัสดุขนาดต่าง ๆ และเทปกาวของบริษัทขนส่ง บัญชีรายชื่อลูกค้า 1 เล่มซึ่งมีรายชื่อลูกค้ารวมหลายร้อยคน และอื่น ๆ เป็นจำนวนมากมูลค่ารวมหลายแสนบาท จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดพร้อมจับกุมนายภูวดล และ น.ส.ปริชาติ ไปสอบสวนปากคำที่กองร้อย อส.ที่ 10 อำเภอท่าศาลา
นายภูวดล สิทธิรักษ์ ให้การรับสารภาพว่าหลังจากที่มีการผ่อนปรนเรื่องกัญชาจากเดิมที่เป็นยาเสพติดมาเป็นพืชสมุนไพรที่สำคัญในการรักษาโรคหลายชนิด จนทำให้น้ำมันสกัดจากกัญชากลายเป็นยาสมุนไพรที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายกว้างขวาง และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งสกัดน้ำมันกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์สำหรับรักษาโรคต่าง ๆ ให้กับประชาชน ประกอบกับมีพรรคการเมืองซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลประกาศชูนโยบายกัญชาเสรีทำให้ตนเห็นช่องทางในการหารายได้ จึงพยายามที่จะศึกษาค้นเรื่องการสกัดน้ำมันกัญชาจากทางโซเชียล จนมีความรู้ความเข้าใจในระดับหนึ่ง จึงตัดสินใจสั่งเครื่องมือและอุปกรณ์การสกัดนั้นกัญชา รวมทั้งกัญชาอัดแท่งจากเว็ปโซต์หนึ่งในกรุงเทพ จากนั้นนำมาทดลองสกัดน้ำมันกัญชาจนประสบผลสำเร็จ ก่อนจะสั่งขวดขาดเล็กมาบรรจุน้ำมันกัญชาจำหน่ายทางออนไลน์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจมีลูกค้าที่ป่วยเป็นมะเร็งและโรคร้ายอื่น ๆ สั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตนและ น.ส.ปริชาติ แฟนสาว จึงมาเช่าห้องพักโรงแรม เพื่อร่วมกันผลิตและจำหน่ายน้ำมันกัญชา
“ตนเห็นว่าน้ำมันกัญชาที่สกัดได้มีจำนวนน้อยไม่เพียงพอกับการจำหน่าย ตนจึงซื้อน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมาผสมกับน้ำมันกัญชาทำให้ได้ประมาณมากขึ้นบรรจุขวดได้เพิ่มมากขึ้น และยังนำกัญชาบดละเอียดบรรจุแคปซูลจำหน่ายด้วย ทำให้ตนและแฟนสาวมีรายได้อย่างน้อยเดือนละ 5 หมื่นบาท กระทั้งมาถูกจับกุมพร้อมของกลางจำนวนมากดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อผลิต เสพ และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดประเภทที่ 5 (กัญชา)โดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายลักลอบผลิตและจำหน่ายน้ำมันกัญชาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คลิป