เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 62  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์  จ.ศรีสะเกษ  พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา พร้อมด้วย นายสมยศ พันธ์มา  เลขานุการมูลนิธิหลวงปู่สรวง  ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ  และนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่อง เที่ยว จ.ศรีสะเกษ และนายวรการ  น้อยสงวน  ผอ.ร.ร.บ้านไพรพัฒนา ได้นำคณะพุทธศาสนิกชนชาวไทย เดินทางไปที่ศาลากลาง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา  เพื่อนำเอาเทียนพรรษาจำนวน 90 คู่ ไปมอบให้กับ นายฮวน  วัน  เน็ต  และนางม๊อก   พุทธิกา   รอง ผวจ.อุดรมีชัย  เพื่อขอให้ จ.อุดรมีชัย นำเอาไปถวายวัด จำนวน 90  วัดในเขต จ.อุดรมีชัย ในช่วงวันเข้าพรรษาที่จะถึงนี้ จากนั้น  พระครูโกศลสิกขกิจ ได้นำคณะชาวพุทธไทยเดินทางไปที่วัดกุเลนจืง อ.กุเลน จ.พระวิหาร ประเทศกัมพูชา  เพื่อนำเทียนพรรษา จำนวน 20 คู่ไปถวายแด่วัด จำนวน 20 วัดในเขต จ.พระวิหาร เพื่อเป็นพุทธบูชาถวายแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ร่วมกับชาวกัมพูชา บริจาคเงิน จำนวน 4,117,000  เรียล หรือประมาณ  50,000  บาท ถวายแด่ พระอธิการเฮง เป๊ก เจ้าอาวาสวัดกุเลนจืง เพื่อสมทบทุนในการปรับปรุงซ่อมแซมโบสถ์ของวัดกุเลนจืง ซึ่งชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากสร้างมานานแล้วโดยมีนายเจีย จัน รองนายอำเภอกุเลน จ.พระวิหาร นำชาวกัมพูชาร่วมพิธีและถวายการต้อนรับในครั้งนี้

พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ   วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า  อาตมาภาพพร้อมด้วยคณะพุทธศาสนิกชนได้นำเทียนพรรษา จำนวน 110 คู่ นำมามอบให้ รอง ผวจ.อุดรมีชัย จำนวน  90 คู่ เพื่อให้นำไปถวายแด่วัดในเขต จ.อุดรมีชัย จำนวน 90 วัด ซึ่งจะได้มีการมาประกอบพิธีถวายเทียนพรรษาในลำดับต่อไป  ส่วนเทียนพรรษาอีก 20 คู่  ถวายแด่เจ้าอาวาสวัดกุเลนจืงและวัดจำนวน 20 วัดในเขต จ.พระวิหาร รวมทั้งถวายเงินเพื่อสมทบทุนในการบูรณะวัดกุเลนจืงด้วย  โดยบ้านกุเลน  แห่งนี้ เป็นบ้านเกิดของหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดินซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนตามแนวชายแดนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา  

ทั้งนี้  เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ชาติไทย – กัมพูชาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยใช้มิติทางพระพุทธศาสนา  เนื่องจากว่า ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชานับถือศาสนาพุทธเช่นเดียวกันนั่นเอง

 

ทางด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์  ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวศรีสะเกษและนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้มาร่วมกับพระครูโกศลสิกขกิจเพื่อจัดนำเทียนพรรษาไปถวายให้วัดที่ประเทศกัมพูชาเป็นประจำทุกปีและได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงว่ามีชาวกัมพูชามาร่วมต้อนรับมากขึ้นทุกปี จากการต้อนรับรอรับเทียนพรรษาที่ พระครูโกศลสิกขกิจ นำไปมอบแต่ละครั้ง   จะมี ผวจ.ของประเทศกัมพูชาหรือรอง ผวจ.และนายอำเภอมาต้อนรับทุกครั้ง  ทำให้การเดินทางของคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่เดินทางมาในครั้งนี้ เป็นการเชื่อมสัมพันธ์กับชาวกัมพูชาโดยพระครูโกศลสิกขกิจได้ ใช้มิติทางพุทธศาสนาเผยแผ่วัฒนธรรมไทยให้ทางกัมพูชาได้ซึมซับประเพณีและวัฒนธรรมของไทยและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย