จากกรณีกล้องวงจรปิดบริเวณลานหน้าผาภูเขาพระทอง  หน้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ และพระพุทธรูปเก่าแก่วัดเขาพระทอง จำนวน 29 องค์ ภายในวัดเขาพระทอง ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สามารถบันทึกภาพนาทีชายอายุประมาณ 40 – 45 ปี ก่อเหตุขโมยหลวงพ่อสัจจะ ที่มีอายุกว่า 200 ปี หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 พ.ค.63 ที่ผ่านมา 

โดยหลังเกิดเหตุพระอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชะอวด เพชื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันนี้ 13 พ.ค.63 นายพัทธวรรณ เพชรแก้ว หรือ บ่าว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 8 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุขโมยหลวงพ่อสัจจะ อายุกว่า 200 ปี ของวัดเขาพระทอง เดินทางมาพร้อมกับญาติๆ เพื่อนำหลวงพ่อสัจจะ ที่ขโมยไปมาคืนให้กับวัดเขาพระทอง เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา 

ซึ่งพระอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัด พร้อมพระลูกวัด ร่วมรับมอบ พร้อมกับนำนายพัทธวรรณ  ผู้ก่อเหตุ ไปทำพิธีขอขมาต่อหน้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ พร้อมกับนำหลวงพ่อสัจจะที่ขโมยไปมาเก็บไว้ที่เดิม ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน ซึ่งหลายคนเชื่อว่าที่คนร้ายนำหลวงพ่อมาคืน เป็นเพราะบารมีหลวงพ่อองค์ใหญ่ หลวงพ่อสัจจะ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด

 

ขณะที่พระอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัด กล่าวให้อภัยนายพัทธวรรณ ผู้ก่อเหตุ กับการกระทำที่เกิดขึ้น พร้อมกับอบรมสั่งสอนให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หลวงพ่อสัจจะ เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นสมบัติของวัด ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ทุกคนสามารถกรายไหว้เพื่อความสิริมงคลได้ แต่ไม่ควรเอาไปเป็นเจ้าของ พร้อมกับมอบแหวนหัวนะโม ให้เป็นเครื่องยึดเหนียวจิตใจให้ทำความดี ส่วนทางคดีอาตมาจะไปถอนแจ้งความ

ขณะที่นายพัทธวรรณ ผู้ก่อเหตุ กล่าวยอมรับผิดกับสิ่งที่กระทำลงไป พร้อมยอมรับผิดว่าเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขาดสติ เนื่องจากได้ยินคำชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของวัดเขาพระทอง ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อองค์ใหญ่ หรือแหวนหัวนะโม ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธ ตนจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ขาดสติ กระทำการหยิบขโมยหลวงพ่อสัจจะไป นอกจากนี้หลังจากตนหยิบขโมยหลวงพ่อสัจจะไปเป็นของตัวเอง มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ตัวร้อนสลับหนาวๆ และเมื่อยตามร่างกายตลอดเวลา ที่สำคัญนอนไม่หลับ และฝันเห็นมีคนปองร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงตนหลายครั้ง จึงมั่นใจว่าเป็นเพราะการกระทำของตน ที่แอบหยิบขโมยหลวงพ่อสัจจะของวัดเขาพระทองมาเป็นของตัวเอง พร้อมกับหลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ทั้งปีนขึ้นลงเหยียบย้ำบนที่ประดิษฐานของหลวงพ่อองค์ใหญ่ โดยที่ไม่ได้ถอดรองเท้า จึงตัดสินใจนำหลวงพ่อสัจจะมาคืน พร้อมกับขอมาหลวงพ่อองค์ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด       

ต่อมาพระอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัด ประสาน พ.ต.อ.เธียร บาลทิพย์ ผกก.สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจเดินทางมาวัดเขาพระทอง เพื่อสอบสวนปากคำนายพัทธวรรณ ในเบื้องต้น โดยพระอายนันต์เจ้าอาวาสวัด ให้อภัยและถอนแจ้งความไม่ดำเนินคดีกับนายพัทธวรรณ ทำให้ นายพัทธวรรณ ผุ้ก่อเหตุ และญาติๆ ถึงกับร่ำไห้สำนึกบาปบุญคุณโทษ