วันนี้ ( 13 พ.ค.63 ) กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 10 พ.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน (13 พ.ค. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน กำแพงเพชร พิษณุโลก บึงกาฬ นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ศรีสะเกษ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และกาญจนบุรี รวม 72 อำเภอ 184 ตำบล 566 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 2,784 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด รวมถึงมีการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 10 พ.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน (13 พ.ค. 63) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน กำแพงเพชร พิษณุโลก บึงกาฬ นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และกาญจนบุรี รวม 72 อำเภอ 184 ตำบล 566 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 2,784 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย (กำแพงเพชร นครราชสีมา ศรีสะเกษ จังหวัดละ 1 ราย) ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด 

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบหลักเกณฑ์ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป